ทัวร์บ้านใหม่ของ Happening Spa ณ ดิ เอ็มโพเรียม ที่ได้แบรนด์ดังมาร่วมออกแบบโปรแกรม
สาวกบิวตี้ที่ชอบไปดูแลเล็บและเส้นผมแถวย่านทองหล่อ ต้องรู้จัก Happening Nail & Hair Spa อย่างแน่นอน สปาแห่งนี้เริ่มจากการเป็นร้านทำเล็บ ก่อนปี 2020 จะขยายพื้นที่เป็นร้าน 2 ชั้นเพื่อให้บริการเส้นผมเพิ่มเติม และล่าสุดในปีนี้ที่ทางร้านได้ฉลองครบรอบ 10 ปี จึงได้ตัดสินใจเปิดบ้านหลังใหม่เพิ่มเพื่อให้บริการที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยโลเคชั่นที่เลือกคือชั้น 1 ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม ภายใต้ชื่อร้าน ‘Happening Relaxing Hair & Nail Spa’
จากร้านทำเล็บ สู่สปาหรูครบวงจรที่โดดเด่นเรื่องความผ่อนคลาย
แม้จุดเริ่มต้นของร้าน Happening จะเป็นการทำเล็บ แต่ระยะเวลาที่ทางร้านเดินทางมากว่า 1 ทศวรรษ ทำให้ทีมได้พัฒนาความเชี่ยวชาญและบริการจนครอบคลุมไปถึงเส้นผม กลายเป็นสปาที่ครบวงจร และขึ้นชื่อเรื่องการมอบความสบาย ผ่อนคลาย ตลอดโปรแกรม
ใครที่มาใช้บริการสปาแห่งนี้เป็นประจำย่อมรู้ดีว่าซิกเนเจอร์เซอร์วิสของร้านคือ บริการสปาผมและหนังศีรษะ ที่มอบความผ่อนคลายด้วยการนวดศีรษะ ต้นคอ จนถึงนวดแขนและมือ ทั้งยังบำรุงเส้นผมและผิวพรรณด้วยผลิตภัณฑ์พรีเมียมที่คัดสรรมาเป็นพิเศษโดยผู้เชี่ยวชาญ
อีกหนึ่งซิกเนเจอร์โปรแกรมเลยก็คือ บริการสปามือและเท้า ที่กลายเป็นโปรแกรมในดวงใจของสาวๆ หลายคนไปแล้ว เพราะนอกจากการเพ้นท์สีและลวดลายสวยๆ บนหน้าเล็บ ทางร้านยังมีบริการนวดสุดผ่อนคลายด้วยผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม พร้อมผลิตภัณฑ์ฟื้นบำรุงสุขภาพเล็บให้กลับมาแข็งแรงจากเกาหลีให้จำหน่ายอีกด้วย
สัมผัสความผ่อนคลายผ่าน 5 ประสาทสัมผัส
สำหรับสาขาใหม่ Happening Relaxing Hair & Nail Spa ณ ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม ยังคงตอกย้ำจุดเด่นในด้านการมอบความผ่อนคลายในทุกบริการ พร้อมรวมความเชี่ยวชาญทั้งด้านผมและเล็บมาให้บริการในพื้นที่เดียว และจุดที่พิเศษสุดคือบ้านใหม่ของทางร้านหลังนี้ได้จับมือกับแบรนด์ดังและผู้เชี่ยวชาญเพื่อออกแบบโปรแกรมที่ดีที่สุดให้ลูกค้าทุกคน
ไม่ว่าจะเป็น Paul Mitchell ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผม, Gelly Fit แบรนด์ยาทาเล็บและดูแลเล็บชั้นนำจากเกาหลี ไปจนถึง Dr.Spiller แบรนด์สกินแคร์คุณภาพสูงที่มาช่วยออกแบบริการสปามือและเท้าให้มีความละเมียดละไมมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
นอกจากนั้นแล้ว สาขาใหม่ที่ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม ยังได้นำเอาศาสตร์ของประสาทสัมผัสทั้ง 5 (5 Senses) มาเป็นหัวใจหลักในการออกแบบบริการ
- เริ่มตั้งแต่การออกแบบบรรยากาศภายในร้านที่ให้ความรื่นรมย์ทางสายตา (Sight) เลือกใช้เฉดสีเอิร์ธโทนในการตกแต่ง พร้อมจัดวางแสงให้รู้สึกผ่อนคลาย เป็นส่วนตัว แม้จะอยู่ในห้างใจกลางเมือง
- ตั้งแต่ก้าวเข้ามาในร้าน จวบจนกระทั่งรับบริการเสร็จและเดินออก จะได้ยินเสียงเพลงคลอเบาๆ อยู่เสมอ ซึ่งทุกเพลงที่นำมาเปิดในร้านจะเน้นไปที่แนวดนตรีสงบ ช่วยให้รู้สึกปลอดโปร่ง คลายกังวล (Hearing)
- อีกหนึ่งปัจจัยที่แม้จะมองไม่เห็นด้วยตา แต่สำคัญไม่แพ้กันในการสร้างความประทับใจแรกที่ดี นั่นก็คือ กลิ่น (Scent) โดยทางร้านได้ตั้งใจออกแบบกลิ่นอโรม่าที่เป็นเอกลักษณ์ ชวนผ่อนคลาย และทำให้ลูกค้าจดจำสปาแห่งนี้ด้วยความประทับใจ
- ถัดมาคือ รสชาติ (Taste) ซึ่งทางสปาจะมี Welcome Drink ต้อนรับลูกค้าทุกคน รวมถึงบาร์ขนมหวานและของว่างให้รับประทาน นอกจากจะเป็นบริการที่ช่วยสร้างประสบการณ์ดีๆ แล้ว ยังทำให้บรรยากาศของร้านแห่งนี้เหมือนบ้านอีกหลังของลูกค้าอีกด้วย
- ท้ายสุดคือ การสัมผัส (Touch) ที่ทุกการสัมผัสของบริการได้ถูกออกแบบและคิดมาเป็นอย่างดีแล้ว ว่าจะเป็นการเตรียมร่างกายของลูกค้าให้เบาสบายและพร้อมสำหรับการรับบริการที่ดีที่สุด
บริการใหม่เฉพาะสาขาใหม่ที่สาวก Happening ต้องไปลอง
แน่นอนว่าการเปิดสาขาใหม่เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ย่อมต้องมีอะไรใหม่ๆ ด้วยเช่นกัน ซึ่งทางร้านก็ได้เปิดตัวโปรแกรมซิกเนเจอร์ใหม่อย่าง Ultimate Happening Relaxing Hair & Scalp Treatment with FlowerFall เป็นการผสมผสานการทำทรีตเมนต์เพื่อมอบทั้งความสะอาด เงางาม และการบำบัด ด้วยผลิตภัณฑ์ที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน
โดยขั้นตอนของโปรแกรมจะเริ่มจากการทำความสะอาดหนังศีรษะด้วยผลิตภัณฑ์ Awapuhi Wild Ginger จาก Paul Mitchell ที่จะช่วยบำรุงเส้นผมไปในตัวด้วยส่วนผสมของ Keratriplex และ Hydratriplex ทำให้ผมแข็งแรงขึ้น นุ่มสลวย และอวบอิ่มยิ่งขึ้น
หลังจากนั้นจึงปรนนิบัติเส้นผมและศีรษะด้วยกลิ่นบำบัดที่เราเลือก โดยใช้เครื่อง Hydro Dhara หยดน้ำมันหอมระเหยลงบนศีรษะเพื่อสร้างความผ่อนคลายและเติมเต็มการบำรุงให้ล้ำลึกยิ่งขึ้น ซึ่งมีให้เลือกทั้งหมด 3 กลิ่นด้วยกัน
เมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา ทางร้านก็ได้จัดงานเปิดตัวสาขาใหม่อย่างเป็นทางการ พร้อมกันนั้นยังเชิญเหล่าเซเลบริตี้สายบิวตี้มาใช้บริการดูแลเส้นผมและเล็บกันอย่างคึกคัก จะมีใครตบเท้าร่วมงานบ้างนั้น เราได้เก็บภาพมาฝากให้ชมกันแล้ว
