เดินทางกันมาเกินครึ่งแล้วนะคะ กับกิจกรรม HELLO! CEO Branding ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรก เรียกว่าเป็นการเปิดประสบการณ์ให้เหล่าสมาชิกได้สัมผัสกับรูปแบบการเรียนรู้ใหม่ๆ เพื่อนำไปต่อยอดพัฒนากับธุรกิจส่วนตัวในอนาคต โดยการสร้าง Personal Branding ให้โดดเด่นจากธุรกิจอื่นๆ พร้อมทั้งสัมผัสเทคนิคการเสริมสร้าง Social Networking ระดับ CEO ที่ไม่เคยมีที่ไหนจัดมาก่อน
ในวันนี้เหล่าสมาชิก HELLO! CEO Branding ได้มีโอกาสจับฉลากเปลี่ยนที่นั่ง เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกๆ ท่านได้ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ต่างกลุ่มในคลาสมากยิ่งขึ้น ในส่วนของคลาสเช้าวันนี้ เป็นการสร้าง Personal Branding ผ่านเทคนิค Story Telling เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารให้มีพลังมากที่สุด

ความสนุก ความเข้มข้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กับเทคนิคการสร้าง Personal Branding ผ่าน Story Telling ในแบบฉบับของ CEO โดยมี ‘คุณเอ๋-อภัยลักษณ์ ตันตระบัณฑิตย์’ ที่ปรึกษาด้านการสร้าง Story ให้กับผู้บริหารอันดับต้นๆ ของเอเชีย มาแชร์ความรู้เกี่ยวกับ Story Telling ที่ยึดหลัก A-B-C หรือ Appearance, Body Language และ Context เป็นการจำลองสถาณการจริง โดยให้เหล่าสมาชิกรับโจทย์ บุคลิกต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น น้ำเสียงที่ใช้ ความเร็วในการพูด ท่าท่างการยืน เป็นต้น แสดงให้เหล่าสมาชิกเห็นถึง Impact ในการสื่อสารและสนุกไปกับการลองผิดลองถูกค่ะ

คุณเอ๋ กล่าวว่า “ต้องบอกเลยค่ะ ว่าเรื่องราวการเล่า Story เป็นเรื่องที่สำคัญมากจริงๆ ‘Stories Own The World’ ไม่ว่าเราจะมีความสามารถพิเศษมากมายเท่าไรก็ตาม ถ้าเราไม่เข้าใจการเล่าเรื่อง เราไม่สามารถที่จะไปถึงดวงดาวได้เลย วันนี้เราจึงมาฝึกวิธีการสื่อสารกันตั้งแต่จิตใต้สำนึกจาก Inner ไปจนถึง Outer เลยค่ะ”
ในส่วนของช่วงบ่าย เหล่าสมาชิกได้นำเคล็ดลับความรู้ทฤษฎีที่เรียนครึ่งแรกของวันมาประยุกต์ใช้กับสถาณการจริง โดยจุดประสงค์หลักของกิจกรรม Story Telling คือฝึกทักษะการสื่อสารให้ออกมาโดดเด่นมากที่สุด HELLO! CEO Branding ได้จัดเตรียมที่นั่งในแบบตัว U เพื่อเตรียมการพรีเซ้นต์ของแต่ละกลุ่ม เรียกว่าเป็นกิจกรรมที่ได้ทั้งประโยชน์และความสนุกสนาน ไม่ว่าจะเป็นการฝึก Eye Contact, Power of Pause เติมในการสร้าง Personal Branding ให้โดดเด่นและเป็นที่น่าจดจำ

คุณเฟรม-เจตบดินทร์ ประคุณศึกษาพันธ์ กล่าวว่า “ผมได้เรียนรู้อะไรเยอะมากครับ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการสบตา วิธีการพูดต่อหน้าคนดูกลุ่มใหญ่ ผมไม่เคยเรียนหลักสูตรอะไรแบบนี้มาก่อน ทั้งๆ ที่การงานจำเป็นต้องคุยกับคนเยอะมากๆ อยู่แล้ว คลาสนี้ได้เปิดมุมมองที่สำคัญและเปลี่ยนชีวิตผมมากครับ ผมได้มีโอกาสขึ้นไปยืนพูดต่อหน้าคนนับ 100 คน โดยมีอาจารย์เอ๋คอยให้คำแนะนำ ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการพูด หรือท่าทางการยืน อาจารย์จะคอยโค้ช ตรงนี้ต้องบอกเลยว่ามันช่วยผมมาก หลังจบกิจกรรมผมรู้สึกมั่นใจขึ้นเยอะเลยครับ”

เข้าสู่คลาสสุดท้ายของวันนี้ กับเซชชั่น ‘Branding on Different Communication Platforms’ เป็นการเรียนรู้องค์ประกอบสำคัญของการสื่อสารบน Platform Online ในคลาสนี้เราได้รับเกียรติจาก ‘คุณทิป-มัณฑิตา จินดา’ วิทยากร ที่ปรึกษาการทำการตลาดออนไลน์ ให้กับบริษัทต่างๆ ทั่วประเทศ และยังเป็นนักเขียน Best Seller และเจ้าของเพจ Digital Tips Academy
คุณทิป-มัณฑิตา จินดา กล่าวว่า “ทุกวันนี้ การใช้โซเชียลมีเดียในการสื่อสาร Personal Brand เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ ค่ะ ปฎิเสธไม่ได้นะคะ ว่าโซเชียลมีเดีย กลายเป็น Main Stream ในการสื่อสารของทุกวันนี้ไปแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าเราสามารถทำความเข้าใจการใช้ช่องทางการสื่อสารแบรนด์ที่ครบถ้วน ไม่ว่าออฟไลน์ มาจนถึงออนไลน์ ทิปเชื่อว่าการทำ Personal Branding จะมีความครบวงจรมากยิ่งขึ้นค่ะ”

หลังจบการบรรยายภาคทฤษฎีกันไปแล้ว ได้เวลาลองทำกิจกรรม เริ่มจากการเลือกใช้ Social Media แบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook Instagram Twitter หรือ Tiktok ให้เหมาะสมและตรงกับ Brand Archetype ของเหล่าสมาชิกมากที่สุดคะ พร้อมร่วมทำเวิร์กชอปสุดพิเศษ กับการใช้ Function ต่างๆ ให้ตรงกับฐานคนดูที่เราต้องการที่สุด

คุณบรีม-พรกมล เพชรดาษดา กล่าวว่า “จริงๆ การเรียนรู้สกิลการใช้ Social Media มันก็มีประโยชน์กับบรีมเองด้วย มันทำให้บรีมกลับมานั่งคิดแล้วว่า ฐานคนดูของบรีมเป็นคนกลุ่มไหน บรีมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าการลงโพสต์หนึ่งโพสต์มีความสำคัญมาก เมื่อก่อนนี้เราไม่เคยคิดที่จะวางแผนเลย ไม่รู้มาก่อนว่า Branding ต้องชัดขนาดไหน ความสม่ำเสมอนั้นมันส่งผลยังไงต่อเรา ตอนนี้เหมือนบรีมได้เข้าใจวิธีการใช้โซเชียลมีเดียให้มีประสิทธิภาพ และเข้าใจการวางแผนในอนาคตค่ะ”