เอาใจคอดนตรีคลาสสิกในไทย กับความตื่นเต้นที่จะได้พบกับ ‘โจชัว เบล‘ (Joshua Bell) ศิลปินเดี่ยวไวโอลินชื่อดังระดับโลกชาวอเมริกัน ที่จะมาบรรเลงเดี่ยวร่วมกับวง Royal Bangkok Symphony Orchestra (RBSO) ในบทเพลงไวโอลินคอนแชร์โตของแม็กซ์ บรุค (Max Bruch) ที่ได้รับยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเพลงเดี่ยวไวโอลินที่นิยมนำมาบรรเลงกันมาก และ Zigeunerweisen หรือ Gypsy Airs ของปาโบล เดอ ซาราซาเต (Pablo de Sarasate) เพลงเดี่ยวไวโอลินที่เล่นยากมากที่สุดเพลงหนึ่ง อำนวยเพลงโดย Charles Olivieri-Munroe ผู้อำนวยเพลงชาวแคนาดา ผู้เป็น Principal Guest Conductor ของวง RBSO มานานกว่า 4 สมัยแล้ว
โจชัวมีผลงานบรรเลงเดี่ยวกับวงต่างๆ ทั่วโลกมาเป็นเวลากว่า 30 ปี และเป็นผู้บรรเลงเดี่ยวไวโอลินเพลง ‘The Red Violin’ ประกอบภาพยนตร์เรื่อง ‘The Red Violin’ ที่ประพันธ์โดย John Corigliano นักแต่งเพลงประกอบภาพยนตร์ชื่อดังแห่งฮอลลีวูด สามารถคว้ารางวัล

ออสการ์สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และเล่นไวโอลินเพลง ‘Before My Time’ ซึ่งประพันธ์ทำนองโดย J.Ralph ขับร้องโดย สการ์เลตต์ โจฮันส์สัน นักแสดงและนักร้องชื่อดังเพื่อประกอบสารคดีเรื่อง Chasing Ice และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขา AcademyAward Normination for Best Original Song
ฉายแววอัจฉริยะตั้งแต่ 4 ขวบ
ในวัยเด็กโจชัว เบล ฉายแววอัจฉริยะทางดนตรีตั้งแต่อายุ 4 ขวบ มารดาจึงส่งเขาไปเรียนไวโอลินอย่างจริงจังกับ Josef Gingold นักไวโอลินที่มีชื่อเสียงมากคนหนึ่งในยุคนั้น และได้พบว่านอกจากเขาจะมีพรสวรรค์มากแล้ว ยังสามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว สามารถสื่ออารมณ์และความรู้สึกในการเล่นดนตรีเหมือนผู้ใหญ่ที่มีความสามารถเลยทีเดียว เขาเริ่มมีชื่อเสียงในฐานะศิลปินเดี่ยวเมื่ออายุ 14 ปี มีผลงานมากมายและได้รับการยกย่องเป็นศิลปินเดี่ยวไวโอลินที่มีชื่อเสียงระดับโลกมากที่สุดคนหนึ่ง หลังจากออกแสดงครั้งแรกก็ประสบความสำเร็จมาตลอด

จนกระทั่งปัจจุบัน โจชัวได้รับเชิญให้เดินทางไปบรรเลงเดี่ยวในคอนเสิร์ต และร่วมงานกับวงออร์เคสตร้าที่สำคัญๆ เช่น Vienna Symphony, New York Philharmonic, London Symphony, Royal Philharmonic, Los Angeles Philharmonic, Philadelphia Orchestra แสดงในเทศกาล Mostly Mozart Festival, Tanglewood Festival และ Hollywood Bowl ได้ร่วมงานกับผู้อำนวยเพลงระดับโลก เช่น Zubin Metha, Charles Dutoit, Riccardo Muti และได้แสดงตามโรงคอนเสิร์ สำคัญๆ เช่น ลินคอล์นเซ็นเตอร์ และคาร์เนกี้ฮอลล์
ผลงานอันเป็นเกียรติประวัติ
โจชัว เบล ได้รับการยกย่องเป็นศิลปิน Exclusive Recording Artist for Sony Classical มีผลงานบันทึกเสียงกว่า 40 ชุด ได้รับรางวัล Gramophone Award ปี 1998 รวมทั้งยังได้รับเชิญไปบรรเลงเพลง ‘West Side Story Suite’ ที่ประพันธ์โดย Leonard Bernstein ในคอนเสิร์ต ‘Tribute to Bernstein for the 2002’ ซึ่งผลงานชิ้นนี้ ทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Grammy และได้รับรางวัล Instrumentalist of the Year 2012 และได้รางวัลอื่นๆ เช่น Academy of Achievement Award (2008), Avery Fisher Prize ได้ปรากฏชื่อในทำเนียบ Hall of Fame ที่ Hollywood Bowl

นอกจากนี้เขายังเล่นแชมเบอร์มิวสิค และได้รับการโหวตจากสมาชิกในวงให้เป็นผู้อำนวยการด้านดนตรีประจำวง Academy of St. Martin in the Fields ซึ่งเป็นวงแชมเบอร์ออร์เคสตร้าที่มีชื่อที่สุดของอังกฤษ และเป็นหนึ่งในบรรดาวงแชมเบอร์ชื่อดังระดับโลก ยิ่งเป็นการตอกย้ำและยืนยันความสามารถทางดนตรีอันเอกอุของเขา
ส่งต่อแรงบันดาลใจให้เยาวชน

โจชัว เบล เป็นศิลปินเดี่ยวที่ทำกิจกรรมเพื่อสังคมมากมาย เช่น การเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อเยาวชนในโครงการ ‘Education Through Music’ ได้รับเชิญเป็นกรรมการองค์กรระดับชาติด้านวัฒนธรรมและการศึกษาเพื่อเด็ก Obama Committee on the Arts and Humanities ได้รับรางวัล Humanitarian Award และได้แสดงเดี่ยวไวโอลิน ตามใจกลางเมืองใหญ่ๆ ของสหรัฐอเมริกาหลายครั้ง โดยมีผู้ฟังนับแสนคน มีครั้งหนึ่งที่เขาปลอมตัวเป็นวณิพก โดยนุ่งยีนส์ใส่แว่นตาดำไปเล่นไวโอลินคนเดียวที่สถานีรถไฟใต้ดินแมนฮัตตัน ขณะที่ทุกคนพากันเร่งรีบเพื่อขึ้นรถไฟใต้ดินไปทำงาน ซึ่งแทบจะไม่มีใครจำเขาได้ และภายหลังเหตุการณ์นี้ได้กลายเป็นข่าวใหญ่ในหนังสือพิมพ์วันต่อมาคอนเสิร์ตครั้งแรกในไทยครั้งนี้ โจชัวจะบรรเลงด้วยไวโอลินคู่ใจที่มีนิคเนมว่า ‘Gibson ex-Huberman’ สร้าง
ในปี 1713 โดย Antonio Stradivarius ช่างทำไวโอลินอัจฉริยะชาวอิตาเลียนแห่งเมืองเครโมนา ซึ่งเป็นไวโอลินที่งดงาม มีความไพเราะเป็นเลิศ และหาโอกาสฟังเสียงไวโอลินชั้นยอดของโลกระดับนี้ได้ยากมาก เพราะหลงเหลือเพียงไม่กี่คันในโลก
“การมาแสดงคอนเสิร์ตที่เมืองไทยครั้งนี้ ผมไม่รู้จะบอกอย่างไรดีถึงความรู้สึกที่ตื่นเต้นมาก ผมหวังอย่างยิ่งว่าจะได้สัมผัสกับศิลปะและวัฒนธรรม รวมทั้งอาหารไทย”
อย่าพลาดโอกาสดีๆ ที่คุณจะได้มีสิทธิเข้าชมการแสดงระดับโลกนี้ได้ ในวันที่ 4 กันยายน 2561 นี้ สำรองที่นั่ง โทร. 02-262-3456 หรือ www.thaiticketmajor.com