Home > Events > ‘โรงพยาบาลสุขุมวิท’ ลงนาม MOU ยกระดับความเชี่ยวชาญด้านผิวหนัง

ยกระดับการเรียนการสอนและองค์ความรู้ด้าน ‘ตจวิทยา’ (การแพทย์ผิวหนัง) ของประเทศไทยให้ก้าวหน้าขึ้นอีกขั้น ล่าสุด โรงพยาบาลสุขุมวิท จัดพิธีร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) ร่วมกับ วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมี นพ.ภมรศักดิ์ เธียรประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรงพยาบาลสุขุมวิท, พญ.ษธิวี สุขารมณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลสุขุมวิท,  ศ.ดร.นพ.อดิศว์ ทัศณรงค์ คณบดีวิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ และ รศ.ดร.พญ.จิตรลดา มีพันแสน ประธานหลักสูตรตจวิทยา วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ ร่วมลงนาม ณ ห้องประชุมชั้น 5 โรงพยาบาลสุขุมวิท

โรงพยาบาลสุขุมวิท MOU
นพ.ภมรศักดิ์ เธียรประสิทธิ์, พญ.ษธิวี สุขารมณ์, ศ.ดร.นพ.อดิศว์ ทัศณรงค์ และ รศ.ดร.พญ.จิตรลดา มีพันแสน พร้อมผู้บริหาร ในพิธีลงนาม MOU

ข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการระหว่างโรงพยาบาลสุขุมวิท และวิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ มีสาระสำคัญซึ่งคำนึงถึงประโยชน์ด้านการเรียนการสอนเป็นหลัก ครอบคลุมถึงองค์ความรู้และการวิจัยด้านตจวิทยาสำหรับแพทย์เฉพาะทาง ที่สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยแพทย์เฉพาะทางในสังกัดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมีเป้าหมายในการเปิดโอกาสให้แพทย์เฉพาะทางรวมถึงคณาจารย์เข้าใช้พื้นที่ ณ ศูนย์ผิวหนังและความงาม บนชั้น 2A ภายในโรงพยาบาลสุขุมวิท เพื่อเป็นแหล่งศึกษาอาการของผู้ป่วยที่เกิดขึ้นจริงโดยมีอาจารย์แพทย์เป็นผู้ควบคุมทุกขั้นตอน 

นอกจากการสนับสนุนด้านการศึกษาที่สอดคล้องตามนโยบายแห่งชาติแล้ว ข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้ยังเป็นการส่งเสริมองค์ความรู้ต่าง ๆ ทั้งในแง่การเรียนการสอนของนักศึกษาแพทย์เฉพาะทาง, การส่งเสริมด้านการทำวิจัยในหัวข้อด้านตจวิทยาและโรคต่าง ๆ, การแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างบุคลากรของโรงพยาบาลฯ กับฝ่ายวิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ ไปจนถึงการส่งเสริมการพัฒนาหลักสูตรการเรียนของแพทย์เฉพาะทางเพื่อผลิตบุคลากรทางการแพทย์ที่มีคุณภาพต่อไปในอนาคต

โรงพยาบาลสุขุมวิท MOU
นพ.ภมรศักดิ์ เธียรประสิทธิ์ และ ศ.ดร.นพ.อดิศว์ ทัศณรงค์ ลงนาม MOU

โอกาสนี้ นพ.ภมรศักดิ์ เธียรประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรงพยาบาลสุขุมวิท กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “โรงพยาบาลสุขุมวิท เป็นโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เปี่ยมด้วยศักยภาพความพร้อม ทั้งในแง่เครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัย และมีแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งมีผู้มาเข้ารับบริการทั้งชาวไทยและต่างชาติจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลากว่า 40 ปี ทำให้โรงพยาบาลสุขุมวิททราบดีว่า ปัจจุบันนี้จำนวนบุคลากรทางการแพทย์ยังมีไม่เพียงพอต่อการดูแลผู้ป่วย การเร่งผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพจึงเป็นสิ่งที่โรงพยาบาลให้ความสำคัญ พร้อมทั้งมุ่งยกระดับการบริการทางสาธารณะสุขและสนับสนุนการศึกษาให้บรรลุผลสำเร็จอย่างเต็มที่

โรงพยาบาลสุขุมวิทเชื่อมั่นว่าข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้ ซึ่งเป็นการรวมตัวระหว่างทีมแพทย์ของทั้งสองสถาบัน จะช่วยยกระดับการดูแลรักษาของโรงพยาบาลให้ทัดเทียมการรักษาในโรงเรียนแพทย์ ที่สามารถดูแลโรคที่ยากและซับซ้อน โดยผู้ป่วยสามารถรับบริการจากคณะแพทย์ผู้ชำนาญการอย่างรวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้นที่โรงพยาบาลสุขุมวิท ไม่ต้องเดินทางไปถึงโรงเรียนแพทย์ ทั้งยังเป็นโอกาสให้วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ และโรงพยาบาลสุขุมวิทร่วมมือกันพัฒนาศักยภาพด้านการแพทย์ในการตรวจรักษาโรคผิวหนังและความงาม พัฒนาองค์ความรู้ใหม่ในรูปแบบของงานวิจัยร่วมระหว่างสององค์กร เพื่อประโยชน์ต่อบุคลากรทางการแพทย์ สังคมและประเทศชาติต่อไป”

โรงพยาบาลสุขุมวิท MOU
ศูนย์ผิวหนังและความงาม โรงพยาบาลสุขุมวิท

ด้าน ศ.ดร.นพ.อดิศว์ ทัศณรงค์ คณบดีวิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า “ความร่วมมือครั้งนี้นับเป็นความร่วมมือมิติใหม่ระหว่างภาครัฐบาลกับเอกชน ที่จะทำให้เกิดสิ่งดีดีกับประเทศไทยและผู้ป่วย ไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือด้านวิชาการ เช่นการร่วมกันดูแลผู้ป่วย การศึกษาเทคโนโลยี และสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้น รวมไปถึงการทำวิจัยร่วมกัน

ความโดดเด่นของการร่วมมือครั้งนี้ คือการรักษาผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติของโรงพยาบาลสุขุมวิท ตรงกับหลักสูตรของวิทยาลัยที่เป็นนานาชาติทั้งหมด ซึ่งตอนนี้ประเทศไทยได้เปิดประเทศต้อนรับชาวต่างชาติเข้ามาแล้ว จึงคาดว่าการร่วมมือครั้งนี้จะเป็นการสร้างประโยชน์ให้แก่ทั้งสองฝ่าย รวมถึงชเป็นการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในด้านการแพทย์ให้แก่ประเทศชาติด้วย”

โรงพยาบาลสุขุมวิท MOU
ศูนย์ผิวหนังและความงาม โรงพยาบาลสุขุมวิท

พญ.ษธิวี สุขารมณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลสุขุมวิท ให้ข้อมูลเกี่ยวกับศูนย์ผิวหนังและความงาม โรงพยาบาลสุขุมวิท ว่า “ให้บริการรักษาโรคผิวหนังทั่วไปทั้งแบบเฉียบพลัน และแบบเรื้อรังซึ่งมีความยากในการรักษา เช่น มะเร็งผิวหนัง ผื่นภูมิแพ้ การรักษาเกี่ยวกับผมและเล็บ ไปจนถึงบริการด้านผิวพรรณและความงาม อาทิ ลดกระ ฝ้า ปรับรูปหน้า ยกกระชับหน้า และฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ เป็นต้น

โรงพยาบาลสุขุมวิท มีอุปกรณ์ครบครันทันสมัย ปลอดภัย และรักษาได้ผล สามารถตอบสนองความต้องการคนไข้ได้จริง แผนกผิวหนังเป็นหนึ่งในแผนกที่ในวิกฤตโควิดที่ผ่านมาจำนวนผู้ป่วยไม่ได้ลดลงเลย และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ การลงนาม MOU กับวิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์​จึงนับเป็นก้าวสำคัญที่โรงพยาบาลฯภูมิใจมาก และตั้งใจว่าจะเป็นโรงพยาบาลที่ดีที่สุดเทียบเท่าโรงเรียนแพทย์ที่มีทั้งความปลอดภัยและคุณภาพในการรักษา”

ศูนย์ผิวหนังและความงาม โรงพยาบาลสุขุมวิท

ด้าน รศ.ดร.พญ.จิตรลดา มีพันแสน ประธานหลักสูตรตจวิทยา วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า “วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ มีการเปิดหลักสูตรตจวิทยามากว่า 10 ปีแล้ว โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตระหนักถึงความสำคัญในการสร้างบุคลากรทางการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีคุณลักษณะครบถ้วนทั้งด้านคุณภาพควบคู่คุณธรรม การเรียนการสอนแบ่งออกเป็น 3 หลักสูตร ได้แก่ ปริญญาโทหลักสูตรตจวิทยาคลินิก, ปริญญาโทหลักสูตรตจวิทยาทางความงาม และหลักสูตรปริญญาเอกตจวิทยา ซึ่งนักศึกษาจะได้เรียนรู้ผ่านสื่อการสอนที่ทันสมัย ทั้งยังได้สังเกตการณ์และปฏิบัติงานจริงในสถานพยาบาลชั้นนำในเครือข่าย เพื่อรับประสบการณ์ดูแลผู้ป่วยที่หลากหลาย

ส่วนงานบริการทางคลินิกมีทั้งให้บริการตรวจโรคผิวหนังทั่วไป การฉายแสงอาทิตย์เทียม การตรวจโรคทางเส้นผมและเล็บ การตจศัลยศาสตร์ และการเลเซอร์ผิวหนังเพื่อความงาม ด้านงานวิจัยได้สร้างผลงานตีพิมพ์บนวารสารนานาชาติจำนวนมากทั้งงานวิจัยคลินิก งานวิจัยพื้นฐาน และงานวิจัยเชิงปริวรรต และเพื่อให้การพัฒนาทัดเทียมสู่ระดับนานาชาติ ปัจจุบันจึงมีความร่วมมือกับสถาบันชั้นนำต่าง ๆ จากหลายประเทศ อาทิ สวิตเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ และญี่ปุ่น เพื่อการศึกษาดูงานและผลิตองค์ความรู้ในการดูแลคนไข้โรคผิวหนังในบริบทที่แตกต่างกัน และสร้างความร่วมมือในด้านงานวิจัย เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่นักศึกษาจะได้รับ เพื่อเปิดโลกทัศน์ในศาสตร์ทางตจวิทยาให้ก้าวไกลยิ่งขึ้น.

Never miss an update

Subscribe to our newsletter to get the latest updates.

No Thanks
You’re all set

Thank you for your subscription.