กลับมาอีกกับการแข่งขันขี่ม้าโปโลการกุศลในรายการ ‘แคเรียน์ – บี. กริม ไทย โปโล โอเพ่น 2017’ (Carrier – B. Grimm Thai Polo Open 2017) ประจำปี 2560 รอบชิงชนะเลิศ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่จัดขึ้นเป็นประจำในช่วงต้นปี ณ ไทยโปโล แอนด์ อีเควสเทรียนคลับ พัทยา เพื่อเฟ้นหาแชมป์ขี่ม้าโปโลจากทีมดังระดับนานาชาติ เหล่าเซเลบริตี้แถวหน้าของเมืองไทยร่วมงานคับคั่ง และเพื่อหารายได้มอบให้โรงเรียนจิตรลดา (สายวิชาชีพ)

‘น้องมิ้น-อาริย์ณัฏฐา ชวตานนท์’ แสดงโชว์ศิลปะบังคับม้าสุดพริ้วไหว กับคู่ขาม้า Clapton C
งานนี้ได้รับเกียรติจากพ่องานใหญ่อย่าง ‘มร.ฮาราลด์ ลิงค์’ ประธานกลุ่มบริษัท บี.กริม และในฐานะนายกสมาคมกีฬาขี่ม้าแห่งประเทศไทย และ ‘คุณนันทินี แทนด์เนอร์’ ที่พาหลานสาวคนสวย ‘น้องมิ้น-อาริย์ณัฏฐา ชวตานนท์’ ดีกรีนักกีฬาทีมชาติซีเกมส์ปี 2017 มาร่วมแสดงโชว์ศิลปะบังคับม้าสุดพริ้วไหว กับคู่ขาม้า Clapton C เจ้าของแชมป์การแข่งขันศิลปะบังคับม้าระดับสูงมนประเทศไทยจากรายการ CDI1

และที่พิเศษสุดคือในการแข่งขันครั้งนี้ ‘เจ้าฟ้าชายฮัลซานัล ซาห์’ และ ‘เจ้าชายอาเมียร์ อิบราฮิม’ แห่งมาเลเซีย เข้าร่วมแข่งขันในรายการนี้ในทีมรอยัล ปาหัง (Royal Pahang)

ภายในงานพบกับกิจกรรมพิเศษมากมาย ในบรรยากาศธีมงาน Black & White Sport Smart Casual ที่ตัดสลับกับสนามหญ้าสีเขียวชอุ่ม สบายๆ ท่ามกลางธรรมชาติ อาทิ การขี่ม้า Pony, โชว์การขี่ม้าประเภทศิลปะบังคับม้าอันสง่างาม, เพลิดเพลินกับประเพณีปฏิบัติ สตอมปิ้ง ดิวอทส์ (Stomping Divots) ตลอดจนช็อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม และเกมสนุกๆ ชิงรางวัล ปิดท้ายด้วยการแสดงพลุไฟอันสวยงามและอิ่มอร่อยกับบาร์บีคิวดินเนอร์ริมสระว่ายน้ำ บริเวณ ชักก้า บาร์ ในบรรยากาศแสนอบอุ่นที่จัดเตรียมไว้แทนคำขอบคุณที่ทุกคนเดินทางเยือน ณ สนามแห่งนี้

‘คุณวาชินี ไกรฤกษ์’ ผู้ชนะรางวัล Best Dress & Best Hat Awards
การแข่งขันเป็นไปอย่างเข้มข้นสนุกสนาน ภายหลังจบการแข่งขันได้มีการร่วมจิบน้ำชายามบ่าย ก่อนการประกาศรางวัลประเภทต่างๆซึ่งในปีนี้ผู้ที่ได้รับรางวัล Best Dress & Best Hat Awards ได้แก่ ‘คุณวาชินี ไกรฤกษ์’ ที่มาในลุคสีดำเพิ่มดีเทลตรงเสื้อปีกค้างคาวสีขาวสุดเก๋และไอเท็มเด็ดอย่าง ‘หมวกปิเก้’ ที่ช่วยเสริมลุคให้เก๋ไก๋ไม่ซ้ำใคร และปิดท้ายผู้ชนะการแข่งขันขี่ม้าโปโลการกุศลในครั้งนี้ ได้แก่ ทีมไทย โปโล (Thai Polo) ครองแชมป์ร่วมกับทีมลา ฟามิเลีย (La Famillia) และรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ ทีมเอซุส (AXUS) จากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน และจบลงไปในบรรยากาศการเฉลิมฉลองชัยชนะอย่างเป็นกันเอง

ตัวแทนจากทีมชนะเลิศเข้ารับถ้วยพระราชทาน
