Home > Royalty > Thailand > ‘ร.10–ราชินีฯ’ ทรงเปิด ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ หลังปิดปรับปรุงนานกว่า 3 ปี

หลังปิดปรับปรุงไปนานกว่า 3 ปี ล่าสุด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ไปทรงเปิดอาคารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อเวลา 17.33 น. วันที่ 15 ตุลาคม 2565 โดยมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, นายฐาปน สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมคณะผู้บริหารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เฝ้าฯ รับเสด็จ

ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

จากนั้น เสด็จเข้าห้องโถง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย ทรงกราบ ทรงศีล ประธานสงฆ์ถวายศีลแล้ว พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เฝ้าฯ กราบบังคมทูลรายงานโครงการปรับปรุงและดัดแปลงศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และกราบบังคมทูลเชิญเสด็จฯ ไปทรงประกอบพิธีเปิดอาคารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

เสร็จแล้ว เสด็จฯ ไปยังแท่นพิธี ทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมป้าย “อาคารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์” ต่อจากนั้น ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก จบแล้ว  พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายฐาปน สิริวัฒนภักดี  เฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายแผ่นศิลา เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย และพระนามาภิไธย

ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

จากนั้น เสด็จฯ ไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงลาพระสงฆ์ แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปยังห้องจัดนิทรรศการ ทอดพระเนตรวีดิทัศน์ข้อมูลโครงการปรับปรุงและดัดแปลงศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จฯ กลับ

ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ประวัติ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เป็นศูนย์การประชุมแห่งแรกของประเทศไทย ที่รัฐบาลได้ดำเนินการจัดสร้างขึ้นบนเนื้อที่ 53 ไร่ 15 ตารางวา เพื่อเป็นสถานที่จัดการประชุมสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ เมื่อปี 2534 และใช้ประโยชน์ในกิจการอื่น ๆ  ซึ่งได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จฯ ไปทรงเปิดศูนย์การประชุมฯ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2534

ในการดังกล่าว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาตให้เชิญพระนามาภิไธยเป็นชื่ออาคารศูนย์การประชุมแห่งชาติว่า “ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์” เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ 12 สิงหาคม 2535  

ต่อมาเมื่อปี 2560  ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ได้มีการปรับปรุงดัดแปลงอาคารศูนย์การประชุมเพื่อให้มีความทันสมัย และมีมาตรฐานระดับสากล พร้อมทั้งเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมไมซ์ (MICE) ของประเทศไทย ซึ่งเป็นธุรกิจบริการที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ โดยสามารถสร้างงาน สร้างรายได้ และกระจายรายได้ไปสู่ธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้อง

รวมทั้งส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น โดยสะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทยที่ผสมผสานกับความล้ำสมัยของเทคโนโลยีสากล และน้อมนำพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงสืบสาน รักษา ต่อยอด พระราชกรณียกิจของพระบรมชนกนาถ และพระบรมราชชนนี โดยได้รับแรงบันดาลใจจากฉลองพระองค์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มาใช้ในการสร้างสรรค์การออกแบบภายในศูนย์การประชุมฯ  แต่ละพื้นที่ของอาคารจึงมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ที่งดงาม

 อาคารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์แห่งใหม่ มีการขยายพื้นที่มากกว่าเดิม 5 เท่า หรือประมาณ 300,000 ตารางเมตร และใช้เทคโนโลยีการก่อสร้างชั้นสูง เป็นอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานอาคารเขียว รวมทั้งมีระบบรักษาความปลอดภัยมาตรฐานสากล

นอกจากนี้ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ยังได้รับเกียรติให้เป็นสถานที่จัด งานประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปค 2022 ( Asia-Pacific Economic Cooperation: APEC 2022 ) ระหว่างวันที่ 14 – 19 พฤศจิกายน 2565  โดยจะได้ใช้ศักยภาพของศูนย์การประชุม ฯ อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อต้อนรับผู้นำประเทศต่าง ๆ และสร้างความประทับใจให้แก่ผู้เข้าร่วมงานทุกคน.

READ MORE:

Never miss an update

Subscribe to our newsletter to get the latest updates.

No Thanks
You’re all set

Thank you for your subscription.