พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในการบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ณ วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม และวัดอุณราชวราราม ในวันที่ 20 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา โดยเสด็จด้วย ในการนี้ ทรงประกอบพิธียกพระนพปฎลมหาเศวตฉัตรที่บูรณขึ้นใหม่เหนือพระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช และเปิดระบบไฟฟ้าควบคุมการตี ระฆังฝรั่งสามใบเถา ณ หอระฆังยอดมงกุฎ วัดราชประดิษฐฯ

เมื่อเสด็จเข้าพระอุโบสถวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงวางผ้าไตรเหนือพานแว่นฟ้าหน้าอาสน์สงฆ์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธสิหังคปฏิมากร พระประธานพระอุโบสถ แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช ทรงกราบ แล้วทรงหยิบผ้าห่มสำหรับพระประธาน พระราชทานเจ้าพนักงานภูษามาลา

จากนั้น เจ้าหน้าที่กรมการศาสนากราบบังคมทูลรายงานจำนวนพระสงฆ์ จบแล้ว ทรงหยิบผ้าไตรที่พานแว่นฟ้านั้นพาดระหว่างพระกร ทรงกล่าวคำถวายผ้าพระกฐิน ทรงวางผ้าไตรไว้บนพานแว่นฟ้าที่เดิม ทรงประเคนผ้าไตรและเทียนปาฏิโมกข์แด่พระสงฆ์รูปที่ 2 เมื่อพระสงฆ์ทำพิธีกฐินกรรมแล้ว พระสงฆ์ผู้ครองผ้าพระกฐินออกไปครองผ้าพระกฐินเสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปทรงถวายเครื่องบริวารพระกฐินแด่พระสงฆ์ผู้ครองผ้าพระกฐิน ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก

ต่อมา พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ รศ.สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กราบบังคมทูลเบิกผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงิน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานของที่ระลึก เสร็จแล้ว เสด็จฯ ไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงลาพระสงฆ์ ทรงรับการถวายของที่ระลึก ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ

หลังเสร็จสิ้นพิธีถวายผ้าพระกฐิน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ พร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ไปยังปราสาทประดิษฐานพระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช ทรงพระสุหร่ายพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร แล้วทรงถือสายสูตรยกพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ขึ้นกางกั้นเหนือพระบรมรูป ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์ในการบูรณปฏิสังขรณ์พระนพปฎลมหาเศวตฉัตรขึ้นใหม่ ขณะนั้นพระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงานลั่นฆ้องชัย สังข์ แตร ดุริยางค์

จากนั้น ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช ทรงกราบ และเสด็จฯ ไปยังแท่นพิธีหน้าพระอุโบสถ ทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดระบบควบคุมการตี ระฆังฝรั่งสามใบเถา หอระฆังยอดมงกุฎ ก่อนประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จฯ ไปในการพระราชพิธีถวายผ้าพระกฐินที่วัดอรุณราชวรารามต่อไป

หอระฆังยอดมงกุฎ เป็นหอระฆังที่ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช ผู้ทรงสถาปนาพระอาราม วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น มีลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมผสมผสานกันระหว่างตะวันตกและไทยประเพณี อันเป็นเอกลักษณ์ของสมัยรัตนโกสินทร์ ส่วนยอดของหอระฆัง เป็นกุฎาคาร ‘ยอดมงกุฎ’ หมายถึง พระมหาพิชัยมงกุฎ เป็นพระราชลัญจกรของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช มีระฆังใบใหญ่ที่จารึกพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช เป็นภาษาอังกฤษ

ทั้งนี้ เนื่องในโอกาสสถาปนาพระอารามครบ 150 ปี วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม ร่วมกับกรมศิลปากร ได้จัดโครงการบูรณปฏิสังขรณ์หอระฆังยอดมงกุฎ และหล่อระฆังทดแทนลูกเดิมที่ชำรุด ณ โรงหล่อระฆัง Whitechapel Bell Foundry ซึ่งเป็นโรงหล่อระฆังเดิมที่หล่อเมื่อครั้งแรกสร้างในปีพุทธศักราช 2404 ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร พร้อมกับนำเทคโนโลยีการตีระฆังแบบอัตโนมัติของสหราชอาณาจักรมาประยุกต์กับระเบียบวิธีการตีระฆังแบบไทย โดยได้รับความร่วมมือในการประดิษฐ์ระบบจากภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี นับเป็นการอนุรักษ์การตีระฆังอย่างไทยโบราณให้คงอยู่.
READ MORE: