หลังสำนักพระราชวังบัคกิงแฮมออกแถลงการณ์ การสิ้นพระชนม์ของ ‘เจ้าชายฟิลิป ดยุคแห่งเอดินบะระ’ พระราชสวามีในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ขณะมีพระชนมายุ 99 ปี สร้างความเศร้าสลดให้แก่ประชาชนทั้งสหราชอาณาจักรและทั่วโลก
ในแถลงการณ์ได้ระบุว่า “เป็นเรื่องเศร้าอย่างที่สุดที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงประกาศถึงการสิ้นพระชนม์ของพระราชสวามี เจ้าชายฟิลิป ดยุคแห่งเอดินบะระ โดยเจ้าชายฟิลิปได้ทรงจากไปอย่างสงบเมื่อเช้าวันนี้ (วันที่ 9 เมษายน 2564) ณ พระราชวังวินด์เซอร์ การประกาศอื่นใดจะมีขึ้นตามมาเมื่อถึงเวลา ขณะนี้ราชวงศ์อังกฤษและผู้คนทั่วโลกร่วมแสดงความอาลัยต่อการจากไปของพระองค์”

การสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายฟิลิป มีเหตุเนื่องมาจากทรงมีพระอาการประชวรและพระวรกายอ่อนแรง ซึ่งพระองค์เสด็จไปประทับรับการรักษาในโรงพยาบาลตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในช่วงต้นมีนาคมได้เสด็จย้ายโรงพยาบาลเพื่อประทับรับการรักษาพระอาการทางพระทัย ก่อนเสด็จกลับมาพำนักยังพระราชวังวินด์เซอร์ในช่วงกลางเดือนมีนาคม
เจ้าชายฟิลิป นับเป็นพระราชสวามีในพระมหากษัตริย์ที่ทรงดำรงพระอิสริยยศยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์อังกฤษ พระราชสมภพเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 1921 ณ เกาะคอร์ฟู ประเทศกรีซ ด้วยพระยศเจ้าชายฟิลิปแห่งกรีซและเดนมาร์ก

พระองค์และสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงพบกันครั้งแรกที่โรงเรียนทหารเรือ Britania Royal Naval College ซึ่งในตอนนั้นสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นเจ้าหญิงเอลิซาเบธ ขณะที่เจ้าชายฟิลิปทรงเป็นนักเรียนนายเรือ หลังจากการพบหน้ากันครั้งแรก ทั้งสองพระองค์ก็ได้ทรงติดต่อผ่านทางจดหมายกันเรื่อยมา
หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง และเวลาผ่านมา 9 ปี เจ้าชายฟิลิปทรงเข้าพิธีอภิเสกสมรสกับเจ้าหญิงเอลิซาเบธเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 1947 และภายหลังจากนั้นอีก 5 ปีต่อมา เจ้าหญิงเอลิซาเบธก็ได้ทรงขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระราชินีนาถ

ทั้งสองพระองค์มีพระราชโอรสและพระราชธิดา 4 พระองค์ ได้แก่ เจ้าฟ้าชายชาร์ล พระบิดาของเจ้าชายวิลเลี่ยมและเจ้าชายแฮร์รี่ , เจ้าหญิงแอนน์ , เจ้าชายแอนดรูว์ ดยุคแห่งยอร์ก และ เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด เอิร์ลแห่งเวสเซ็กส์
ในการจากไปของเจ้าชายฟิลิปไม่เพียงสร้างความเศร้าสลดอย่างสุดซึ้งให้แก่สหราชอาณาจักรเท่านั้น แต่บุคคลสำคัญจากหลายประเทศก็ได้ออกมาแสดงความอาลัยต่อการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ด้วย ไม่ว่าจะเป็น นายกรัฐมนตรีจากสกอตแลนด์ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย และสมเด็จพระราชาธิบดีฟิลิปแห่งเบลเยียม