อีกหนึ่งงานสมรสระดับพระราชวงศ์ที่เกิดขึ้นในปีนี้คือ พิธีเสกสมรสของ ‘เจ้าชายฟิลิปปอสแห่งกรีซและเดนมาร์ก’ พระราชโอรสพระองค์เล็กใน ‘สมเด็จพระราชาธิบดีคอนสแตนตินที่ 2 และสมเด็จพระราชินีแอนน์-มารีแห่งกรีซ’ กับ ‘นีน่า-นาสทาสเซีย ฟลัวร์’ (Nina-Nastassja Flohr) นักธุรกิจชาวสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 23 ตุลาคม ที่ผ่านมา ณ มหาวิหารเมโทรโพลิแทน กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ

ครั้งนี้นับเป็นการจัดงานเสกสมรสครั้งที่ 3 หลังจากเจ้าชายฟิลิปปอสได้เสกสมรสกับนีน่าไปแล้วตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม 2563 แต่เป็นเพียงงานเล็ก ๆ ที่มีเพียงสมเด็จพระราชาธิบดีคอนสแตนตินที่ 2 และบิดาของฝ่ายเจ้าสาวร่วมเป็นสักขีพยาน ที่เซนต์ โมริตซ์ (St.Moritz) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ก่อนทั้งคู่จัดพิธีฉลองเสกสมรสร่วมกับพระสหายในช่วงเดือนมิถุนายน 2564 ที่สติบบิงตัน เฮาส์ บ้านพักของสาวสังคมอย่าง ‘อลิซ เนเลอร์-ลีย์แลนด์’ ในสหราชอาณาจักร

ขณะที่ครั้งนี้เป็นพิธีเสกสมรสอย่างเป็นทางการตามหลักนิกายกรีกออร์โธด็อกซ์ ซึ่งมีอาร์คบิชอปแห่งเอเธนส์และกรีซ เป็นผู้ทำพิธี โดยมีสมาชิกราชวงศ์ในแถบยุโรปเสด็จมาทรงร่วมงานและแสดงความยินดีเป็นจำนวนมาก อาทิ ‘เจ้าหญิงเบียทริซแห่งยอร์ก’ และพระสวามี ‘เอดูอาร์โด้ มาเปลลี มอสซี’, ‘เจ้าหญิงยูจินี’ และพระสวามี ‘แจ็ก บรูกส์แบงก์’, ‘อดีตสมเด็จพระราชินีโซเฟียแห่งสเปน’, ‘เจ้าหญิงเบเนดิกเทอแห่งเดนมาร์ก’, ‘เจ้าชายคิริลแห่งบัลแกเรีย’, ‘เจ้าชายเออเนสต์ ออกัส และเจ้าหญิงเอคาเทริน่าแห่งแฮนโอเวอร์’, ‘เจ้าชายคริสเตียน และเจ้าหญิงอเลสซานดราแห่งแฮนโอเวอร์’ และ ‘เจ้าหญิงตาเตียนา ราดซิวิลล์’ เป็นต้น แต่เนื่องด้วยข้อบังคับเกี่ยวกับโรคโควิด – 19 การเข้าร่วมพิธีจึงจำกัดเฉพาะพระบรมวงศานุวงศ์ พระสหายสนิท และเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในพิธีเท่านั้น ส่วนผู้ร่วมงานที่เหลือจะได้รับเชิญให้ร่วมชมการถ่ายทอดสดพิธี ณ ทูดอร์ ฮอลล์ โรงแรมคิง จอร์จ

ด้านเจ้าสาวปรากฎตัวอย่างงดงามในชุดวิวาห์ที่สั่งตัดขึ้นเป็นพิเศษจากแบรนด์ ‘ชาแนล’ เติมเต็มความสง่าด้วยเทียร่า ‘แอนทีค คอร์เซจ’ ที่รังสรรค์ขึ้นจากเพชรและไข่มุก ซึ่งเคยเป็นเทียร่าที่สมเด็จพระราชินีแอนน์-มารีแห่งกรีซได้รับพระราชทานเป็นของขวัญจากพระราชมารดา ขณะที่เพื่อนเจ้าบ่าวและเจ้าสาวล้วนเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ใกล้ชิดของเจ้าชายฟิลิปปอส ไม่ว่าจะเป็นพระเชษฐาและเชษบภคินี ‘เจ้าชายพาฟลอส มกุฎราชกุมารแห่งกรีซ’, ‘เจ้าชายนิโคลอส’, ‘เจ้าหญิงธีโอโดรา’ และพระนัดดา ‘เจ้าหญิงมาเรีย-โอลิมเปีย’ และ ’เจ้าชายโอดิสซีอัส-คิมอน’ พระธิดาและพระโอรสในเจ้าชายพาฟลอส

ทั้งนี้ ‘เจ้าชายฟิลิปปอสแห่งกรีซและเดนมาร์ก’ ทรงมี ‘ไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์’ เป็นพระมารดาทูนหัว ปัจจุบันทรงมีพระชันษา 35 ปี และทรงงานเป็นนักวิเคราะห์ ส่วน ‘นีน่า-นาสทาสเซีย ฟลัวร์’ เป็นทายาทเพียงคนเดียวของ ‘โทมัส ฟลัวร์’ เศรษฐีพันล้านชาวสวิสผู้ก่อตั้งธุรกิจเครื่องบินเช่าเหมาลำวิสต้า เจ็ต กับ ‘แคเธอริน่า โกเนชนี’ (Katharina Konečný) เป็นครีเอทีฟ ไดเร็กเตอร์บริษัทจิวเวลรี่ House of Fabergé ที่มีความเก่าแก่กว่า 179 ปี และเป็นบรรณาธิการผู้ก่อตั้งโว้ก รัสเซีย และโว้ก กรีซ

ปัจจุบันนีน่ามีอายุ 34 ปี นอกจากช่วยบริหารธุรกิจเครื่องบินเช่าเหมาลำของครอบครัว นีน่า ยังมีธุรกิจโรงแรมสุดหรูของตัวเองในชื่อ ‘คิซาว่า แซงชัวรี’ รวมถึงเป็นผู้ก่อตั้ง ‘ศูนย์วิทยาศาสตร์ศึกษาบาซารูโต’ องค์กรการกุศลที่ดำเนินงานด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเลในแถบทวีปแอฟริกา โดยธุรกิจโรงแรมและองค์กรการกุศลตั้งอยู่ที่เกาะเบนกูร์รา ประเทศโมซัมบิก
เจ้าชายฟิลิปปอสทรงเดตกับนีน่าตั้งแต่ปี 2018 ซึ่งทั้งคู่ได้ร่วมพิธีเสกสมรสระหว่างเจ้าหญิงยูจินีแห่งยอร์กและแจ็ก บรูกส์แบงก์ ในปีเดียวกัน ก่อนทรงหมั้นกับนีน่าในปี 2020 โดยเดือนกันยายนที่ผ่านมา นีน่าได้รับพระราชทานพระอิสริยยศเป็น ‘เจ้าหญิงแห่งกรีซและเดนมาร์ก’ พร้อมฐานันดรศักดิ์ ‘รอยัล ไฮเนส’.
Courtesy Photo : Nikolas Kominis / Studio Kominis, Instagram olympiagreece, royalsofgreece