ผ่านพ้นไปอย่างงดงามสมพระเกียรติสำหรับ พระราชพิธีพระบรมศพ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2022 ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นเหตุการณ์ครั้งสำคัญระดับประวัติศาสตร์ ที่มีรายละเอียดมากมายอันสะท้อนถึงความทุ่มเทในการประกอบพระราชกรณียกิจนานัปการตลอดพระชนม์ชีพของ ควีนเอลิซาเบธที่ 2 ไม่เว้นแม้แต่ ดอกไม้ในพระราชพิธีพระบรมศพ ที่มากไปด้วยเรื่องราวและความหมายที่ล้วนทำให้ระลึกถึงพระองค์ นอกจากนี้ สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ยังทรงเพิ่มรายละเอียดที่สะท้อนถึงความใส่พระราชหฤทัยในความยั่งยืนด้วย
สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงรักธรรมชาติเป็นอย่างยิ่ง ภายหลังการสวรรคตของพระเจ้าจอร์จที่ 6 ทรงรับเป็นองค์อุปถัมภ์ของ Royal Horticultural Society ต่อจากพระราชบิดา ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1952 และเสด็จฯ เยือนงาน Royal Chelsea Flower Show ต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ทั้งเคยรับสั่งว่าแม้ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในการทำสวนแต่ “พืช ต้นไม้ และดอกไม้ เป็นแหล่งของความสุข” ของพระองค์มาตลอด

ดอกไม้ในพระราชพิธีพระบรมศพ ควีนเอลิซาเบธที่ 2
ใบไม้และหมู่มวลบุปผชาติที่ถูกนำมาเป็นสัญลักษณ์ในพระราชพิธีพระบรมศพควีนเอลิซาเบธที่ 2 ณ เวสต์มินสเตอร์ ล้วนเป็นดอกไม้จากพระราชอุทยานในพระราชวังบักกิงแฮม, คลาเรนซ์ เฮ้าส์ และไฮโกรฟ เฮ้าส์ ประกอบด้วย โรสแมรี่ ต้นไม้แห่งการระลึกถึง และ ไมร์เทิล ซึ่งตัดมาจากต้นที่ปลูกจากกิ่งไมร์เทิลในช่อดอกไม้พิธีอภิเษกสมรสของสมเด็จพระราชินีนาถ ในปี ค.ศ. 1953 ตามพระราชประเพณี นอกจากนี้ยังมี ไม้โอ๊คอังกฤษ ที่เป็นสัญลักษณ์ของ ความรักอันแข็งแกร่ง และไม้เบิร์ช
ดอกไม้และพวงมาลาขนาดใหญ่ในโทนสีขาวและเขียวซึ่งถูกนำไปตกแต่งตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อถวายความอาลัยแด่สมเด็จพระราชินีนาถตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ถูกรังสรรค์ขึ้นจาก ดอกลิลลี่เอเชีย, ดอกซ่อนกลิ่นฝรั่ง (Gladioli), ดอกลิลลี่เปรู หรือดอกลิลลี่แห่งอินคา (Alstroemeria) และ ดอกไลเซนทัส (Eustoma)

ขณะที่ในพระราชพิธีพระบรมศพ (Queen’s state funeral) ดอกการ์เด้น โรส (Garden Rose), ดอกไฮเดรนเยียสีแดง (Autumnal Hydrangea), ต้นซีดัม (Sedum), ดอกรักเร่ (Dahlias) และ ดอกกระดุมน้ำเงิน (Scabious) ถูกนำมาตกแต่งในโทนสีทอง ชมพู เบอร์กันดีเข้ม และสีขาว เพื่อสะท้อนถึงผืนธงมหาราช
นอกจากนี้ ตามพระราชประสงค์ของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 พวงมาลาบนหีบพระบรมศพถูกประดิษฐ์ขึ้นโดยคำนึงถึงความยั่งยืน ด้วยการใช้มอสอังกฤษ (English moss) และกิ่งไม้โอ๊คเป็นโครง แทนการใช้โฟม

ดอกไม้ทรงโปรดของควีนเอลิซาเบธที่ 2
ดอกลิลลี่ ออฟ เดอะ วัลเลย์ (Lily of the valley) ซึ่งมีลักษณะเป็นรูประฆังสีขาวและมีกลิ่นหอม ตัดกับใบสีเขียวเข้ม เติบโตอย่างงดงามอุดมสมบูรณ์ที่พระราชวังบักกิงแฮม และเป็นดอกไม้ที่ทำให้ควีนเอลิซาเบธที่ 2 ทรงพระเกษมสำราญตลอดระยะเวลากว่า 70 ปีที่ทรงครองราชย์
ในพิธีอภิเษกสมรสกับเจ้าชายฟิลิปในปี ค.ศ. 1947 ควีนเอลิซาเบธที่ 2 ทรงถือดอกลิลลี่ ออฟ เดอะ วัลเลย์ ไว้ในช่อดอกไม้ซึ่งประกอบด้วย ดอกกล้วยไม้สีขาว และต้นไมร์เทิล โดยไมร์เทิลมักถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของชีวิตแต่งงานที่มีความสุข และดอกไม้เหล่านี้ยังถูกนำมาใช้ในพิธีบรมราชาภิเษกเมื่อปี ค.ศ. 1953 จึงนับว่ามีความสัมพันธ์พิเศษกับพระองค์มานานนับหลายปี นอกจากนี้ยังทรงโปรดดอกกุหลาบ ดอกไม้สีชมพูและสีแดง ซึ่งถูกตกแต่งในพระราชอุทยานส่วนพระองค์ทั้ง 6 แห่ง โดย Royal Collection Trust เผยว่า ดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมหวานมักถูกนำไปใช้ตกแต่งโต๊ะในงานเลี้ยง

ตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 พระมห่ากษัตริย์แห่งราชวงศ์อังกฤษจะพระราชทานพระนามตั้งเป็นชื่อดอกกุหลาบ สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย ซึ่งมีดอกไม้อันเนื่องมาจากพระนามคือ Queen Victoria Lobelia จนถึงดอกกุหลาบของ ควีนเอลิซาเบธที่ 2 ทรงเลือกพระราชทานนาม ‘กุหลาบควีนเอลิซาเบธที่ 2’ (Queen Elizabeth II Rose) ให้แก่ชากุหลาบไฮบริดสายพันธุ์ใหม่ที่เพาะโดย Harkness Roses เพื่อเฉลิมฉลองการครองราชย์ครบ 70 ปี (Platinum Jubilee) อย่างเป็นทางการ
Harkness Roses อธิบายถึงดอกกุหลาบควีนเอลิซาเบธที่ 2 ว่า “เป็นกุหลาบรูปทรงคลาสสิกขนาดใหญ่ที่ผสมผสานองค์ประกอบของสีชมพูอ่อน สีทองอำพันอ่อน และครีม มีกลิ่นหอมหวานเข้มข้น” นอกจากนี้ยังกล่าวกันว่าพืชชนิดนี้แข็งแรงด้วยใบสีเขียวเข้มขนาดใหญ่ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับใช้เป็นดอกไม้เฉลิมพระเกียรติและน้อมระลึกถึงสมเด็จพระราชินีนาถ

แม้ไม่ได้ลงมือทำสวนด้วยพระองค์เอง แต่ควีนเอลิซาเบธที่ 2 ทรงเข้าพระทัยใจถึงความสำคัญของการทำสวนเป็นอย่างดี และให้ความสนพระทัยในการดูแลพระราชอุทยานในพระตำหนักต่าง ๆ ทั้งแซนดริงแฮม ในนอร์ฟอล์ก, บัลเมอรัล ในอะเบอร์ดีนเชียร์ และพระราชวังบักกิงแฮม ในลอนดอน โดยพระราชวังบักกิงแฮมและพระราชวังโฮลีรูดได้รับเลือกให้เป็นสถานที่จัดงานปาร์ตี้ในสวนฤดูร้อนขนาดใหญ่ (Garden Parties) เป็นประจำทุกปี.
Images Credit: Twitter The Royal Family/ RHS/ Harkness Roses