‘ควีนเอลิซาเบธที่ 2’ เสด็จฯ พร้อม ‘เจ้าชายแอนดรูว์’ ร่วมพิธีรำลึก ‘เจ้าชายฟิลิป’
นับเป็นเวลาเกือบปีแล้วที่ ‘เจ้าชายฟิลิป’ ดยุคแห่งเอดินบะระ พระราชสวามีใน ‘สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2’ ทรงสิ้นพระชนม์ท่ามกลางความอาลัยของคนทั้งโลก ล่าสุด ควีนเอลิซาเบธที่ 2 เสด็จฯ ไปทรงประกอบพิธีทางศาสนาเพื่อรำลึกถึงเจ้าชายฟิลิป ณ มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ โดยมีพระบรมวงศานุวงศ์อังกฤษ และพระประมุขจากราชวงศ์ต่าง ๆ ทั่วยุโรป ทรงร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียงกันเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2565
ในการนี้ ควีนเอลิซาเบธที่ 2 เสด็จฯ โดยรถยนต์พระที่นั่งพร้อมด้วย ‘เจ้าชายแอนดรูว์’ จากปราสาทวินด์เซอร์ไปยังมหาเวสต์มินสเตอร์ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร โดยมีพระบรมวงศานุวงศ์เฝ้าฯ รับเสด็จและร่วมรำลึกถึงเจ้าชายฟิลิปด้วยความอาลัย อาทิ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์และดัชเชสคามิลล่า ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์, เจ้าชายวิลเลี่ยมและดัชเชสแคเธอรีน ดยุคและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ พร้อมด้วยเจ้าชายจอร์จ และเจ้าหญิงชาร์ล็อตต์ พระโอรสและพระธิดา
เจ้าหญิงแอนน์และทิโมธี ลอว์เรนซ์ พระสวามี, ปีเตอร์ ฟิลลิปส์ พระโอรสองค์โตในเจ้าหญิงแอนน์กับมาร์ค ฟิลลิปส์ อดีตพระสวามี เดินทางมาร่วมพิธีกับลูกสาว อิสล่าและซาวานน่าห์, ซาร่า ทินดอลล์ พระธิดาในเจ้าหญิงแอนน์กับมาร์ค ฟิลลิปส์ พร้อมด้วยไมค์ ทินดอลล์ สามีและ มีอา ลูกสาวคนโต, เจ้าชายเอ็ดเวิร์ดและเคาน์เตสโซฟี เอิร์ลและเคาน์เตสแห่งเวสเซ็กส์ พร้อมด้วย เลดี้หลุยส์ วินด์เซอร์ และเจมส์ อเล็กซานเดอร์ พระธิดาและพระโอรส, เจ้าหญิงเบียทริซ และเอดูอาร์โด้ มาเปลลี มอสซี, เจ้าหญิงยูจินี และแจ็กบรูกส์แบงก์
ควีนเอลิซาเบธที่ 2 ทรงมีส่วนร่วมอย่างมากในการพิธีรำลึกถึงเจ้าชายฟิลิปครั้งนี้ โดยเฉพาะรายละเอียดต่าง ๆ ที่ไม่สามารถจัดในพิธีฝังพระศพของพระสวามีในเดือนเมษายนปีที่แล้ว เนื่องจากมีข้อจำกัดตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด–19 ซึ่งรวมถึงการเชิญบรรดาผู้ที่ได้รับรางวัล Gold Duke of Edinburgh และเยาวชนที่เป็นสมาชิกของสมาคม UK Cadet Force มาร่วมพิธีครั้งนี้ ตลอดจนการร่วมร้องเพลง Guide Me, O Thou Great Redeemer ตามพระประสงค์ของเจ้าชายฟิลิป โดยระหว่างพิธีเจ้าหญิงเบียทริซ ทรงหลั่งน้ำพระเนตรด้วยความอาลัยยิ่งต่อทูลกระหม่อมปู่
พิธีครั้งนี้เป็นการรำลึกถึงพระกรณียกิจนานัปการ ที่เจ้าชายฟิลิปทรงให้ความสำคัญตลอดเวลากว่า 73 ปีที่ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นพระสวามีในสมเด็จพระราชินีนาถ และดยุคแห่งเอดินบะระ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างโอกาสให้กับเยาวชนทั้งชายและหญิง ส่งเสริมการดูแลและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และสนับสนุนกองกำลังติดอาวุธ องค์กรการกุศลกว่า 700 แห่งที่ทรงให้การสนับสนุนตลอดชนม์ชีพ รวมถึงรางวัล The Duke of Edinburgh Award
ดอกไม้ที่ถูกนำประดับประดาในโบสถ์เป็นดอกไม้ที่มีโทนสีแดง ขาว และน้ำเงิน ซึ่งเป็นสีของธงชาติสหราชอาณาจักร โดยส่วนใหญ่เป็นดอกเอเรนเจียม (Eryngium) สีน้ำเงิน เนื่องจากเป็นดอกไม้ที่รู้จักในชื่อ Sea Holly เป็นการยกย่องอาชีพราชนาวีและความหลงใหลในท้องทะเลตลอดพระชนม์ชีพของดยุคแห่งเอดินบะระ นอกจากยังมีช่อดอกไม้สีขาวที่มีส่วนประกอบของดอกกล้วยไม้สกุลหวาย (Dendrobium Orchids) หนึ่งในดอกไม้ที่ปรากฏในช่อดอกไม้พิธีอภิเษกสมรสของเจ้าหญิงเอลิซาเบธและเจ้าชายฟิลิปเมื่อปี ค.ศ. 1947
หลังเสร็จสิ้นพิธี สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ยังเสด็จฯ โดยรถยนต์พระที่นั่ง พร้อมด้วยเจ้าชายแอนดรูว์ กลับปราสาทวินด์เซอร์อีกด้วย.
ทั้งนี้ ‘เจ้าชายฟิลิป ดยุคแห่งเอดินบะระ’ พระราชสวามีใน ‘สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2’ ทรงสิ้นพระชนม์อย่างสงบเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2564 สิริพระชนมายุ 99 ปี ท่ามกลางความอาลัยของประชาชนทั่วโลก เนื่องจากตลอดพระชนม์ชีพ เจ้าชายฟิลิปทรงปฏิบัติพระกรณียกิจมากมายซึ่งสร้างประโยชน์คุณูปการให้แก่โลกใบนี้ในหลาย ๆ ด้าน และด้วยพระจริยวัตรอันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้ทรงเป็นที่รักของผู้คนจำนวนมาก
หลังการสิ้นพระชนม์ สำนักพระราชวังบัคกิ้งแฮมมีการจัดพิธีฝังพระศพขึ้นอย่างเรียบง่าย ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 เมื่อวันเสาร์ที่ 17 เมษายน ณ โบสถ์เซนต์จอร์จ พระราชวังวินด์เซอร์ หากแต่ยังคงงดงามสมพระเกียรติด้วยขบวนเคลื่อนพระศพจากพระราชวังวินด์เซอร์ไปยังโบสถ์เซนต์จอร์จ โดยมีพระราชโอรส พระราชธิดา และพระราชนัดดา ทรงพระดำเนินร่วมขบวน ขณะที่ชาวอังกฤษจำนวนมากเดินทางไปวางช่อดอกไม้เพื่อถวายความอาลัยแด่เจ้าชายฟิลิปเป็นครั้งสุดท้าย
ขณะที่ เจ้าชายแอนดรูว์ ดยุคแห่งยอร์ก พระราชโอรสองค์ที่ 2 ในควีนเอลิซาเบธที่ 2 และเจ้าชายฟิลิป ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทรงเผชิญการฟ้องร้องคดีแพ่งในสหรัฐอเมริกา จากข้อกล่าวหาของนางจุฟเฟร ที่ระบุว่าถูกพระองค์ล่วงละเมิดทางเพศในปี 2001 ขณะมีเธอมีอายุ 17 ปี
กระทั่งเมื่อเดือนมกราคม 2565 สำนักพระราชวังบักกิงแฮมแห่งสหราชอาณาจักร ออกแถลงการณ์ว่า ยศทางทหารและหน่วยงานในพระอุปถัมภ์ของเจ้าชายแอนดรูว์ทั้งหมด จะถูกโอนกลับคืนสู่สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 หลังดยุคแห่งยอร์กถูกฟ้องร้องคดีแพ่งข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ และเมื่อต้นเดือนมีนาคม 2565 คดีได้สิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการ หลังเจ้าชายแอนดรูว์ทรงยินยอมจ่ายให้แก่จุฟเฟร และมูลนิธิของเธอโดยไม่ระบุจำนวนเงิน.
Courtesy Photo: HELLO! UK, The Royal Family’s Facebook