นับเป็นความสูญเสียของประชาชนในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และคนทั่วโลก สำหรับการสวรรคตของ เชค เคาะลีฟะฮ์ บิน ซัยยิด อัลนะฮ์ยาน (His Highness Sheikh Khalifa bin Zayed Al Nahyan) ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) และเจ้าผู้ครองรัฐอาบูดาบี เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2022 ที่ผ่านมา สิริพระชนมพรรษา 73 พรรษา โดยรัฐบาลยูเออีประกาศให้หน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ หยุดงานเป็นเวลา 3 วัน และไว้ทุกข์ถวายความอาลัย 40 วันนับจากวันสวรรคต พร้อมจัดพระราชพิธีละหมาดตามหลักศาสนาอิสลาม หลังจากพระอาทิตย์ตก โดยประชาชนสามารถร่วมพิธีได้ที่มัสยิดทั่วประเทศ ก่อนอัญเชิญพระบรมศพไปประทับที่สุสานอัลบาตีน (Al Bateen) ในอาบูดาบี
โดยภายหลังการสวรรคตของ ‘เชค เคาะลีฟะฮ์’ พระอนุชา เชค มุฮัมมัด บิน ซัยยิด อัลนะฮ์ยาน (His Highness Sheikh Mohammed bin Zayed Al Nahyan) ได้เสด็จขึ้นเป็นเจ้าผู้ครองรัฐอาบูดาบี และประธานาธิบดียูเออีพระองค์ที่ 3

เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ส่งข้อความพระราชสาส์นแสดงความเสียพระราชหฤทัยไปยัง เชค มุฮัมมัด บิน ซัยยิด อัลนะฮ์ยาน ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และเจ้าผู้ครองรัฐอาบูดาบีพระองค์ใหม่ ความว่า “หม่อมฉันและพระราชินีรู้สึกเศร้าสลดใจอย่างยิ่งต่อการสวรรคตของเชค เคาะลีฟะฮ์ บิน ซัยยิด อัลนะฮ์ยาน ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และเจ้าผู้ครองรัฐอาบูดาบี ผู้นำที่นานาประเทศให้การยกย่องสรรเสริญและพระประมุขที่ทรงเป็นที่เคารพในพระปรีชาสามารถและน้ำพระราชหฤทัยอันเปี่ยมด้วยพระเมตตา ด้วยสายพระเนตรอันกว้างไกล พระองค์ทรงมีบทบาทอย่างสำคัญในการพัฒนาประเทศ รวมทั้งการปรับเปลี่ยนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในทุก ๆ ด้าน อันนำมาซึ่งสันติภาพ ความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองให้กับประชาชนทั้งมวล น้ำพระราชหฤทัยและพระเมตตาที่ทรงมีต่อเพื่อนมนุษย์ มิได้พระราชทานให้เพียงเฉพาะประชาชนของพระองค์ หากยังเผื่อแผ่ไปยังประเทศอื่น ๆ ที่ประสบความยากลำบากทั้งในและนอกภูมิภาคอีกด้วย
ในนามของประชาชนชาวไทย หม่อมฉันขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งมายังฝ่าพระบาท และประชาชนชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในการสูญเสียอันนำมาซึ่งความโศกเศร้าเป็นอย่างมากครั้งนี้ (พระปรมาภิไธย) มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว”

ด้าน สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงมีพระราชสาส์น ความว่า “หม่อมฉันรู้สึกเสียใจที่ได้ทราบถึงการสวรรคตของเชค เคาะลีฟะฮ์ บิน ซัยยิด อัลนะฮ์ยาน ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และผู้ปกครองของอาบูดาบี พระเชษฐาของพระองค์ทรงอุทิศพระชนม์ชีพ เพื่อรับใช้ประชาชนในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมถึงสร้างความสัมพันธ์กับพันธมิตรและสหาย พระองค์จะได้รับการระลึกถึงไปอีกนานในฐานะทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อความมั่นคงในภูมิภาค และสร้างความเข้าใจระหว่างประเทศ และระหว่างความเชื่อ และยังทรงงานด้านการอนุรักษ์ หม่อมฉันขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งและขอแสดงความเสียใจต่อประชาชนในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์”

สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลอฮ์ที่ 2 แห่งจอร์แดน เสด็จฯ เยือนยูเออี เพื่อทรงร่วมแสดงความเสียใจต่อการสวรรคต พร้อมทั้งมีพระบรมราชโองการ ให้สำนักพระราชวังร่วมถวายความอาลัยเป็นเวลา 40 วัน ขณะที่ สมเด็จพระราชินีราเนีย แสดงความเสียพระราชหฤทัยผ่านโซเชียลมีเดียว่า “วันนี้เราขอร่วมอาลัยต่อการสวรรคตของประธานาธิบดีเชค เคาะลีฟะฮ์ บิน ซัยยิด อัลนะฮ์ยาน พระผู้เป็นที่รักของชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทรงมได้รับการยกย่องสรรเสริญในด้านคุณธรรมและจุดยืน ขอให้จิตวิญญาณของพระองค์พบกับความสงบสุข”

นอกจากนี้ยังมีผู้นำและบุคคลสำคัญจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกร่วมถวายความอาลัย อาทิ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา, บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร และ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส (António Guterres) เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ เป็นต้น.

สำหรับ ‘เชค เคาะลีฟะฮ์‘ พระราชสมภพเมื่อปี 1948 ในเขตตะวันออกของอาบูดาบี เป็นพระราชโอรสองค์โตของ เชคซายิด บิน สุลฏอน อัลนะฮ์ยาน (Sheikh Zayed bin Sultan Al Nahyan) ก่อนดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี พระองค์ทรงเป็นมกุฎราชกุมารแห่งอาบูดาบีและเป็นหัวหน้าสภาปิโตรเลียมสูงสุดแห่งอาบูดาบี ซึ่งมีหน้าที่ในการร่างนโยบายน้ำมัน
หลังจากทรงดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อจากพระราชบิดา ในปี 2004 ทรงเป็นหนึ่งในผู้นำกองทุนเพื่อการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก Abu Dhabi Investment Authority ซึ่งจัดการทรัพย์สินหลายแสนล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ยังทรงเป็นแฟนกีฬาฟุตบอลพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ และสนับสนุนการเข้าซื้อสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้
นับตั้งแต่ทรงมีพระอาการประชวรด้วยโรคเส้นพระโลหิตในสมองตีบในปี 2014 พระราชภารกิจส่วนใหญ่ถูกส่งต่อไปยังพระอนุชา ซึ่งดำรงพระอิสริยยศเป็นมกุฎราชกุมาร และ เชค มุฮัมมัด บิน รอชิด อัลมักตูม รองประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นายกรัฐมนตรีและเจ้าผู้ครองรัฐดูไบ
Courtesy Photos: WAM