ในวาระครบ ๑ เดือนของการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นิตยสารเฮลโลขอร่วมน้อมรำลึกในพระมหาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ด้วยการรวบรวมภาพและเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลาตั้งแต่วันที่ ๑๓ ตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อแสดงความอาลัยและรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระองค์จะสถิตอยู่ในหัวใจทุกดวงของพสกนิกรชาวไทยตลอดไป
๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙
เวลา ๑๘.๔๕ น. แถลงการณ์จากสำนักพระราชวังถูกถ่ายทอดผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ส่งสานส์จากสำนักพระราชวังใจความแสนเศร้าสู่ประชาชนไทยในวันฟ้าหม่นถึงการเสด็จสวรรคต ณ โรงพยาบาลศิริราช ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร สิริพระชนมพรรษาปีที่ ๘๙ ทรงครองราชสมบัติได้ ๗๐ ปี
เสียงตะโกน“ทรงพระเจริญ”ผสมคราบน้ำตาดังปกคลุมพื้นที่ทั่วบริเวณลานพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และพระรูปหล่อสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ประดิษฐาน ณ ศาลาศิริราช ๑๐๐ ปี โรงพยาบาลศิริราช บางคนถึงกับเป็นลมด้วยความเสียใจอย่างหนักหลายสิบท่าน เจ้าหน้าที่ต้องนำเปลมาหามนำไปปฐมพยาบาลจากนั้นไม่นานทุกท่านทั้งหมดลุกขึ้นยืนร่วมกันเปล่งเสียงทรงพระเจริญและร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เป็นภาพบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าสุดแสนจะบรรยาย
ช่วงกลางดึกโลกออนไลน์ได้แชร์ภาพปรากฏการณ์หมอกธุมเกตุ จากช่างภาพ Bigg Sirirojwong ที่บันทึกจากมุมสูงของกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นคืนวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ ผ่านเฟซบุ๊ก “Bigg Sirirojwong” พร้อมข้อความระบุว่า “คืนวันที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๙ วันเสด็จสวรรคตองค์ในหลวงรัชกาลที่๙เกิดปรากฏการณ์ ‘หมอกธุมเกตุ’ ซึ่งตำรากล่าวถึงว่ามักจะมีในเวลาที่มีเหตุใหญ่ๆเกิดขึ้น เช่นเหตุการณ์สวรรคตของพระเจ้าแผ่นดินมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อครั้งองค์ในหลวงรัชกาลที่ ๕ เสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๓ ก็มีบันทึกว่าได้เกิดปรากฏการณ์ ‘หมอกธุมเกตุ’ นี้เช่นเดียวกัน”
สำนักพระราชวังอิมพีเรียลของประเทศญี่ปุ่นออกแถลงการณ์ว่าสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะและสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะทรงทราบข่าวการเสด็จสวรรคต ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และได้ตั้งพระราชหฤทัยไว้ทุกข์เป็นเวลา ๓ วันด้วยความอาลัยอย่างสุดซึ้งในฐานะที่เป็นพระสหายกันมายาวนานกว่า ๕๐ปี
๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๙
เวลา ๑๖.๓๓ น. สมเด็จพระวันรัต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร เดินนำขบวนเชิญพระบรมศพลงจากอาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น ๑๖ โดยมีคณะแพทย์และพยาบาลที่ถวายการรักษาพยาบาลเลื่อนเตียงพยาบาลเชิญพระบรมศพเข้าสู่ลิฟท์ โดยมีสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชการ เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี, พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ, พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา, พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์, พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์, คุณพลอยไพลิน เจนเซ่น, คุณสิริกิติยา เจนเซ่น และท่านผู้หญิงทัศนาวลัย ศรสงคราม เสด็จฯ เสด็จ และเดินตามพระบรมศพ
ทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์
เชิญพระบรมศพเข้าสู่รถตู้พยาบาลสีบรอนซ์เงินมีแทบสีฟ้าคาดด้านหน้า เลขทะเบียน ๑ด-๐๙๒๙ จากนั้นขบวนรถเชิญพระบรมศพเคลื่อนออกจากโรงพยาบาลศิริราชไปยังพระบรมมหาราชวังเข้าทางประตูวิเศษไชยศรี ขณะรถขบวนพระบรมศพเคลื่อนผ่านอย่างช้าๆบรรยากาศสองฝั่งเส้นทางเสด็จฯ จากโรงพยาบาลศิริราช เป็นไปด้วยความโศกเศร้าประชาชนต่างพนมมือไหว้และตั้งจิตอธิษฐานแล้วก้มลงกราบสักการะพระบรมศพอย่างนอบน้อม การรับเสร็จครั้งนี้ไม่มีเสียง “ทรงพระเจริญ” เหมือนอย่างที่คุ้นชิน มีเพียงความเงียบ เงียบถึงขนาดได้ยินเสียงสะอื้นร่ำไห้จากความจงรักภักดีและอาลัยยิ่งในการสูญเสียพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รัก
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ทรงประทับรถตู้สีครีมทองเลขทะเบียน๑ด-๐๙๖๘เสด็จพระราชดำเนินตามขบวนเคลื่อนพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชโดยทรงโบกพระหัตถ์และแย้มพระสรวลให้แก่ประชาชนที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จฯยังความปลาบปลื้มแก่พสกนิกร บางท่านถึงกับร่ำไห้ด้วยความตื้นตันที่เห็นพระองค์ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง และทรงเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้พสกนิกรของพระองค์กลับมามีรอยยิ้มได้อีกครั้ง
บริเวณศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ที่มีการจัดพิธีสรงน้ำพระบรมศพต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมิทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีการอัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ในฉลองพระองค์ครุยราชภูษิตาภรณ์ประดิษฐานบนโต๊ะหมู่บูชาที่ประดับดอกไม้สีชมพูโยงสายภูษามายังโอ่งบรรจุน้ำสรงพระศพ และเปิดให้ประชาชนเข้ามาร่วมพิธีตั้งแต่เวลา ๐๘.๓๐ น. ขณะเดียวกันที่โถฝั่งตะวันตก ได้กันไว้สำหรับบุคคลสำคัญประกอบด้วยเหล่าทูตานุทูต ข้าราชการระดับสูงซึ่งทั้งนี้การประกอบพิธีสรงน้ำพระบรมศพ ต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ เริ่มด้วยคณะของฝ่ายบริหาร ข้าราชการ สำนักพระราชวัง สำนักราชเลขาฯซึ่งเป็นบุคคลถวายงานรับใช้ใกล้ชิด ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของเหล่าข้าราชบริพารอย่างหาสุดมิได้
สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่๒แห่งสหราชอาณาจั
กรมีพระราชสาส์นส่วนพระองค์แสดงความเสียพระราชหฤทัยในการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระพระปรมิทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมายังสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถและสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา
ส่งสารแสดงความอาลัยมายังชาวไทย โดยขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมวงศานุวงศ์ และประชาชนชาวไทย พร้อมขอยืนเคียงข้างภาวนาและเป็นกำลังใจให้ชาวไทย
ภาพวาดพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จำนวน ๙ พระรูป โดยนักศึกษาคณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากรทุกชั้นปีเพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชอย่างหาที่สุดมิได้
เวลา ๒๐.๓๔
น.สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯพร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี,สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี,ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี,พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา,พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์,คุณพลอยไพลิน เจนเซน,คุณสิริกิติยา เจนเซน ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวัง
๑๕ ตุลาคม ๒๕๕๙
เวลา ๑๑.๐๐ น. สำนักพระราชวัง ได้ดำเนินการเปิดให้ประชาชนได้ถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์และลงนามสมุดหลวงเพื่อถวายความอาลัย ณ ศาลาสหทัย ในพระบรมมหาราชวัง
เวลา
๑๘.๔๗ น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทูลกระหม่อมหญิง อุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี พระเจ้าวรวงศ์เธอ และพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง
๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๙
เวลา ๐๙.๔๐ น.สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน พร้อมด้วย สมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา เสด็จฯ
มาทรงวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ และทรงร่วมพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท จากนั้นพระราชดำเนินไปทรงพระอักษรถวายความอาลัย ความว่า “To the Incomparable, Visionary and Most Precious Jewel King of Thailand, who attained Parinirvana, I would like to offer my deepest and my heartfelt prayers. May your Majesty always be born as Dharma Raja, to the benefit of all sentient beings” โดยแปลความว่า “แด่พระมหากษัตริย์ผู้ยากหาใครเปรียบ ผู้ทรงมีสายพระเนตรกว้างไกล ผู้ทรงเป็นดังอัญมณีมีค่าสูงสุด พระมหากษัตริย์ไทยผู้ทรงเสด็จสู่สรวงสวรรค์ ข้าพเจ้าขอแสดงความเคารพอย่างสูงสุดและสวดมนต์ขอพรด้วยใจ ขอให้พระองค์ทรงจุติในฐานะธรรมราชาตลอดกาล เพื่อประโยชน์สุขของสิ่งมีชีวิตทั้งมวล” พร้อมทั้งทรงลงพระปรมาภิไธย ณ ศาลาว่ากลางพระราชวัง ในพระบรมมหาราชวัง แล้วเสด็จฯ กลับ นำมาซึ่งความปลาบปลื้มปีติใจในความสัมพันธ์อันดีของพระมหากษัตริย์สองแผ่นดินนี้
๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๙
พสกนิกรต่างปลื้มปีติ
เมื่อทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงดำเนินมายังเต็นท์บริเวณหน้าพระบรมมหาราชวัง เพื่อประทานอาหารให้แก่ประชาชนที่เดินทางมาน้อมถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมมีรับสั่งกับประชาชนอย่างเป็นกันเองว่า ‘พ่อของเรา ก็คือพ่อของทุกคน’
๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๙
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราช ดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี
ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสัตตมวารถวายพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง
เจ้าชายคอลิฟะห์ บิน ซัลมาน อัล
คอลิฟะห์ นายกฯแห่งราชอาณาจักรบาห์เรนชาวอาหรับคนแรกที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นมหาปรมาภรณ์ช้างเผือกได้เสด็จมายังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ทรงวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชจากนั้นเสด็จไปทรงพระอักษรถวายความอาลัย พร้อมทั้งลงพระนามาภิไธย ณ ศาลาว่าการพระราชวัง หน้าพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย
๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๙
พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงประกอบอาหารเมนูไก่ทอด ภายในเต็นท์มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยากสภากาชาดไทยเพื่อประทานอาหารให้แก่ประชาชนที่เดินทางมาถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งถือเป็นพระกรุณาธิคุณกับประชาชนอย่างหาที่สุดมิได้
คุณพลอยไพลิน เจนเซ่น พระธิดาคนโต ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาร่วมซ้อมขับร้องประสานเสียงเพลงสรรเสริญพระบารมีเพื่อน้อมใจสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
๒๒ ตุลาคม ๒๕๕๙
คนไทยเรือนแสน มารวมตัวกันด้วยใจภักดิ์ ณ บริเวณท้องสนามหลวงและบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง เพื่อพร้อมใจเปล่งเสียงในเพลงสรรเสริญพระบารมีให้ดังกึกก้อง จากดำริของท่านมุ้ย ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล ที่จะถ่ายทำภาพยนตร์เพลง“เพลงสรรเสริญพระบารมี” ฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ เมื่อหลายฝ่ายทราบข่าวก็มาสนับสนุนร่วมแรงร่วมใจกันทั้งจากเหล่าผู้สร้างภาพยนตร์และทีมงานนับพันชีวิต รวมถึงวงออเคสตร้า ที่มีเครื่องดนตรีกว่า 400 ชิ้น ผู้ขับร้องเพลงอีก 200 ชีวิต และยังได้ปรมาจารย์ชั้นครูอย่าง อาจารย์สมเถา สุจริตกุล มาเป็นวาทยากรนำบรรเลงในครั้งนี้ด้วย
นายลี เซียน ลุง
นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสิงคโปร์เดินทางมาวางพวงมาลาถวายสักการะพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวังจากนั้นลงนามแสดงความไว้อาลัย ณ ศาลาว่าการพระราชวังบริเวณหน้าพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย
๒๖ตุลาคม ๒๕๕๙
ภายหลังเสร็จพระราชพิธีในการสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯทรงไหว้ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาพระเชษฐภคินีและทรงสวมกอดก่อนเสด็จฯ กลับเป็นภาพที่พสกนิกรเห็นแล้วต่างอดปลื้มใจไม่ได้ถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของทั้งสองพระองค์
๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๙
ในการประชุมพิเศษเพื่อถวายราชสดุดีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นางซาแมนธา พาวเวอร์เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำสหประชาชาติ
ได้กล่าวสดุดีพระองค์ด้วยพระราชกรณียกิจต่างๆโดยเฉพาะโครงการแก้มลิงได้อย่างดีเยี่ยม และยังได้กล่าวว่าเป็นโชคดีของคนไทยที่มีพระองค์เป็นเหมือนดั่งคนในครอบครัวอีกด้วย
๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๙
ม.ล.ปนัดดา
ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้แจกข้าวเปลือกพันธุ์ดีจากกรมการข้าวที่มีลายพระหัตถ์ในพระบาทสมเด็จปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชว่า”พอเพียง”ให้ประชาชนที่มาร่วมสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเบื้องหน้าพระบรมโกศ เป็นของที่ระลึกก่อนเดินทางกลับบ้าน ณ ประตูเทวาภิรมย์
๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๙
ชาวไทยที่อาศัยอยู่ประเทศสหราชอาณาจักรจำนวนหลายพันคนต่างพร้อมใจกันยืนแสดงความอาลัยและร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่ทราฟัลการ์สแควร์ท่ามกลางความหนาวเย็น สร้างปรากฏการณ์และความซาบซึ้งใจแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก
๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๙
สมเด็จพระราชาธิบดีเลตซีที่ ๓
แห่งราชอาณาจักรเลโซโทเสด็จพระราชดำเนินไปทรงวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและทรงพระอักษรแสดงความอาลัย ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวังทั้งนี้เพื่อทรงน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่สมเด็จพระราชธิบดีที่ 3 แห่งราชอาณาจักรเลโซโทได้ทรงนำไปปรับใช้จนเกษตรกรของเลโซโทสามารถผลิตอาหารได้
๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๙
ตัวแทนช้าง ๑๐ เชือกจากมูลนิธิพระคชบาลและชาวช้างกลุ่มคชสารคู่แผ่นดิน ๒๐๐ คนร่วมแสดงความอาลัยถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
โดยขบวนช้างจะยืนสงบนิ่งก่อนหมอบกราบและเดินทางกลับจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๙
เวลา ๑๓.๔๕ น. นายนเรนทร โมที (Mr. Narendra Modi) นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐอินเดีย เดินทางมาวางพวงมาลาถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง จากนั้น ลงนามถวายความอาลัย ณ อาคารสำนักราชเลขาธิการถือเป็นการเดินทางมาเยือนประเทศไทยเป็นครั้งแรก
๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๙
พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ประทานผ้าถุงดำที่ทรงออกแบบด้วยพระองค์เองเพื่อให้ประชาชนยืมใส่เพื่อเข้าไปกราบถวายบังคมพระบรมศพ โดยพระองค์ยังได้ประทานแพทเทิร์นที่ทรงออกแบบให้กับเหล่าแบรนด์ดังของไทยในการนำไปตัดเย็บ โดยพระองค์ยังได้เสด็จไปบริเวณหน้าพระบรมมหาราชวังเพื่อประทานผ้าถุงดำแก่ประชาชนด้วยพระองค์เองด้วย
……………………………………………………………………………….
Credit photos : ฝ่ายช่างภาพส่วนพระองค์ กองงานส่วนพระองค์ สำนักพระราชวัง
กระทรวงการต่างประเทศ
สำนักข่าวไทย
CMI
Reuters
Thaithow Sucharitkul ‘s facebook
supachai ‘s instagram