Home > Royalty > 10 เรื่องที่คุณอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับพ่อหลวง

1.พระมหากษัตริย์องค์เดียวในโลกที่เสด็จพระราชสมภพในสหรัฐอเมริกา

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงใช้ชีวิต ณ ต่างแดนมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ เสด็จพระราชสมภพ ณ โรงพยาบาลเมานท์ออเบิร์น เมืองเคมบริดจ์ รัฐแมสซาซูเซตส์สหรัฐอเมริกา เมื่อวันจันทร์ เดือนอ้าย ขึ้น 12 ค่ำปีเถาะ นพศก จุลศักราช 1289 ตรงกับวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 นับว่าทรงเป็นพระมหากษัตริย์องค์เดียวในโลกที่เสด็จพระราชสมภพในสหรัฐอเมริกา

2.ทรงฉลองพระเนตรตั้งแต่ยังไม่ 10 พรรษา

ครูประจำชั้นสังเกตเห็นว่าเวลาจะทรงจดอะไรจากกระดานดำจะต้องลุกขึ้นบ่อยๆพระองค์จึงทรงฉลองพระเนตร(แว่นสายตา)ตั้งแต่มีพระชนมายุยังไม่เต็ม 10 พรรษา

3.ทรงพระราชนิพนธ์เพลง ‘แสงเทียน’ เป็นเพลงแรก

เมื่อมีพระชนมายุ 18 พรรษาในพ.ศ. 2489 ทรงพระราชนิพนธ์เพลงทั้งสิ้นรวม 48 เพลง ทุกเพลงล้วนมีทำนองไพเราะประทับใจผู้ฟังและเป็นที่ยอมรับในระดับโลก โดยทรงพระราชนิพนธ์เพลง‘แสงเทียน’เป็นเพลงแรก

4.ทรงเป็นชาวเอเชียพระองค์แรกที่เป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์แห่งสถาบันดนตรีและศิลปะแห่ง กรุงเวียนนา

เมื่อครั้งเสด็จฯเยือนประเทศออสเตรียนั้นวงดุริยางค์ซิมโฟนีออร์เคสตร้าแห่งกรุงเวียนนาได้อัญเชิญเพลงพระราชนิพนธ์ชุด‘มโนราห์’ ‘สายฝน’ ‘ยามเย็น’ ‘มาร์ชราชนาวิกโยธิน’ และ ‘มาร์ชราชวัลลภ’ ไปบรรเลง ณ คอนเสิร์ตฮอลล์ กรุงเวียนนาเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2507และถ่ายทอดเสียงไปทางวิทยุทั่วประเทศ สถาบันดนตรีและศิลปะแห่งกรุงเวียนนา(ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยการดนตรีและศิลปะการแสดง)ได้กราบบังคมทูลอัญเชิญเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ ทรงเป็นชาวเอเชียพระองค์แรกและมีพระชนมายุเพียง 37 พรรษา

5.ทรงตั้งพระนามลำลองให้แก่พระเจ้าลูกยาเธอและพระเจ้าลูกเธอทุกพระองค์

โดยทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯมีพระนามลำลองว่า”ปูเป้”เป็นภาษาฝรั่งเศสที่แปลว่าตุ๊กตาทรงตั้งพระนามลำลองให้แก่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯว่า “ชาย”ส่วนสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯทรงมีพระนามลำลองว่า”น้อย”และพระบิดาทรงตั้งพระนามอีกฉายาหนึ่งว่า”สลาตัน”เพราะว่าทรงวิ่งได้อย่างรวดเร็วมาก และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯทรงมีพระนามลำลองว่า”เล็ก”เช่นเดียวกับพระบิดา

6.ทรงเคยซื้ออุปกรณ์ต่างๆมาแกล้งข้าราชบริพาร

ท่านผู้หญิงพึงจิตต์ ศุภมิตร เคยเล่าว่าทั้งสองพระองค์ทรงมีพระอารมณ์ขันอย่างยิ่ง แต่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมองภายนอกจะทรงดูเคร่งขรึมเป็นนิตย์ ทรงพระสรวลยาก ซึ่งต่างจากพระอุปนิสัยร่าเริงสมัยเมื่อเป็นพระอนุชาเนื่องจากเหตุการณ์ต่างๆที่ทรงผ่านมาสมัยที่ประทับต่างประเทศ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเคยทรงซื้ออุปกรณ์ต่างๆ มาแกล้งข้าราชบริพารโดยเฉพาะ เช่น ทรงซื้อกล่องแป้งมาฝาก (เปิดแล้วมีตัวอะไรยาวๆ พุ่งออกมา)ขวดพีนัทบัตเตอร์(รับสั่งให้ทาขนมปังกรอบ) หน้ากากผี มือผีหรือเดินไปเหยียบอะไรที่ทรงวางกับดักไว้ดังปังและปืนจุดบุหรี่ที่จุดแล้วดังปัง

7.‘ติโต’ แมวทรงเลี้ยงเพียงตัวเดียว

‘ติโต’ เป็นแมวตัวเดียวที่เป็นแมวทรงเลี้ยงในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงเลี้ยงระหว่างประทับอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีสีน้ำตาลเข้มและมีหูกับส่วนต่างๆออกสีเข้มกว่าตัว อกสีอ่อน ตาสีฟ้า เป็นแมวที่ชอบการท่องเที่ยว ชอบหนีไปเที่ยวข้างนอกแล้วเข้าพระตำหนักไม่ได้เป็นประจำทั้งยังช่างครวญครางคล้ายจะพูดได้เป็นที่สุด

8.โปรดการถ่ายภาพมาตั้งแต่เป็นพระอนุชา

กล้องที่ทรงใช้เริ่มแรกไม่มีที่วัดแสงจึงต้องทรงใช้ทักษะการถ่ายภาพอย่างสูง ทรงถ่ายภาพได้อย่างมืออาชีพและเชี่ยวชาญในด้านการล้างฟิล์มเอง อัดเอง ทรงมีห้องมืดโดยเฉพาะ มีรับสั่งว่ารูปจะบอกถึงสถานที่และกาลเวลาได้ละเอียดกว่าคำพูด ทรงเรียงเก็บพระรูปเข้าอัลบั้มด้วยพระองค์เอง ทรงเขียนเบอร์เรียงตามลำดับวัน เดือน ปี เก็บไว้ตั้งแต่ทรงพระเยาว์จนถึงปัจจุบัน

9.ทรงมีรสนิยมในการทรงพระอักษรแบบชาวตะวันตก

โปรดการ์ตูนฝรั่ง เช่น ตินติน (Tin Tin) หรือเรียกตามภาษาฝรั่งเศสว่า แตง แตง หนังสือการ์ตูน Mad เป็นต้น

ทรงพระอักษรหนังสือพิมพ์ไทยและฝรั่ง นิตยสารต่างประเทศ เช่น Time, Newsweek, The Economist และยังโปรดทรงพระอักษรหนังสือเกี่ยวกับชีวประวัติบุคคลสำคัญและหนังสือเกี่ยวกับดนตรีอีกด้วย

10.เหตุการณ์ที่น่าตกใจและใกล้พระองค์ที่สุด

คือการลอบวางระเบิดใกล้พลับพลาที่ประทับในจังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2520 และได้เกิดระเบิดขึ้นสองครั้งในหมู่ราษฎรที่มาเฝ้าฯรับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมิได้ทรงสะทกสะท้าน หากแต่ประทับอยู่อย่างองอาจสมกับที่ทรงดำรงตำแหน่งจอมทัพไทย หลังจากเหตุระเบิด ประชาชนบางส่วนได้รับบาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาล แม้ว่าราชองครักษ์จะกราบบังคมทูลเชิญเสด็จฯกลับพระตำหนักและทูลว่าไม่ควรเสด็จฯโรงพยาบาลเนื่องจากทางที่จะกลับเมื่อค่ำแล้วจะยิ่งอันตราย พระเจ้าอยู่หัวมีรับสั่งว่าเขาเจ็บนี่เพราะเขามาหาเราเราต้องไปเยี่ยมมีรับสั่งให้เลี้ยวรถยนต์พระที่นั่งไปโรงพยาบาลทันที

……………………………………………………………………………………….

ภาพจากสำนักพระราชวัง,วิกิพีเดีย และ GETTY IMAGES

Tags
royalty
Never miss an update

Subscribe to our newsletter to get the latest updates.

No Thanks
You’re all set

Thank you for your subscription.