หลังจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกมหาสมาคม เพื่อทรงรับการกราบบังคมทูลถวายพระพรเสร็จสิ้นแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ออกจากพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ทรงฉลองพระองค์เครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ฉลองพระองค์ครุย สายสะพายนพรัตน์ราชวราภรณ์ สายสร้อยจุลจอมเกล้า ทรงพระมาลาเส้าสูง เสด็จฯ ลงจากพระที่นั่งอัมรินทรวินิจฉัย ไปยังเกยหน้าพระทวารเทเวศรรักษา ประทับพระราชยานพุดตานทอง
แล้วจึงเสด็จฯ โดยขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ที่ประกอบไปด้วย เครื่องประกอบต่างๆ ชุดที่สูงที่สุด อาทิ มโหระทึก ไปยังเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทรงเปลื้องพระมาลาเส้าสูงก่อนที่จะเสด็จฯ ขึ้นชานพระอุโบสถไปยังภายในพระอุโบสถ
เมื่อทรงจุดธูปเทียนเสร็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัส ทรงประกาศเป็นพุทธศาสนูปถัมภกว่า “ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ แต่เดิมมาข้าพเจ้าได้มีจิตศรัทธา เลื่อมใส และนึกถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ ด้วยวิธีนั้นๆ อยู่แล้ว ฉะนั้นบัดนี้ ข้าพเจ้าได้เถลิงถวัลย์ ราชสมบัติบรมราชาภิเษกแล้ว จึงขอมอบตัวแด่พระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้าและพระสังฆเจ้า จะได้รับการจัดการ ให้ความคุ้มครอง และรักษาพระพุทธศาสนาโดยชอบธรรมตลอดไป ข้าแด่พระสงฆ์ผู้เจริญ ขอพระสงฆ์จงจำไว้ด้วยว่า ข้าพเจ้าเป็นพุทธศาสนูปถัมภกเถิด”
พระมหากษัตริย์ไทยทรงเป็นพุทธศานูปถัมภกมาแต่อดีต ทรงเป็นผู้อุปถัมภ์ค้ำชูให้พุทธศาสนารุ่งเรือองดังพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช องค์ปฐมบรมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ในนิราศท่าแดง ความตอนหนึ่งว่า “ตั้งใจจะอุปถัมภก ยอยกพระพุทธศาสนา จะป้องกันขอบขัณฑสีมา รักษาประชาชนและมนตรี”
Photos: สำนักพระราชวัง