หลังสมเด็จพระราชาธิบดีมูฮัมมัดที่ 5 กษัตริย์แห่งมาเลเซีย ทรงสละราชสมบัติอย่างกะทันหัน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา ทำให้ สุลต่านอัลดุลเลาะห์แห่งรัฐปะหัง ทรงได้รับเลือกให้ทรงเป็นผู้สืบทอดพระราชบัลลังก์ เป็นสมเด็จพระราชาธิบดีพระองค์ที่ 16 แห่งมาเลเซีย

สมเด็จพระราชาธิบดีมูฮัมมัดที่ 5 ทรงเป็นพระประมุขพระองค์แรกของมาเลเซียที่สละราชสมบัติ โดยมีแถลงการณ์สำนักพระราชวังมาเลเซียว่า “สมเด็จพระราชาธิบดีมูฮัมมัดที่ 5 มีพระราชดำรัสให้ประชาชนชาวมาเลเซียปรองดองเพื่อความเป็นหนึ่งเดียวกัน อดทนอดกลั้นและร่วมมือร่วมใจกันต่อไป”
ซึ่งทางสำนักพระราชวังก็ไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับข่าวลือเรื่องที่ว่าพระองค์อภิเษกสมรสกับนางงามมอสโก ออกซาน่า โวเอโวดินา หรือแม้กระทั่งพระพลานามัยของอดีตพระประมุขแต่อย่างใด

พระราชประวัติของสมเด็จพระราชาธิบดีพระองค์ใหม่
สุลต่านอัลดุลเลาะห์แห่งรัฐปะหัง เสด็จพระราชสมภพวันที่ 30 มิถุนายน ปี 1959 มีพระชนมายุ 59 พรรษา ทรงสำเร็จการศึกษาด้านกิจการต่างประเทศและการทูตที่ Worcester College University of Oxford และ Queen Elizabeth College
ด้านชีวิตส่วนพระองค์ เสกสมรสกับ เจ้าหญิงอาซิซาห์ อามีนาห์ ไมมูนาห์ อิสกัรดาเรียห์ มีพระโอรสพระธิดาทั้งหมด 10 พระองค์ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ เจ้าฟ้าชายฮัลซานัล ซาห์ ผู้เคยเสด็จมาทรงร่วมแข่งขันโปโลการกุศลของบี.กริม ในประเทศไทย

สุลต่านอัลดุลเลาะห์ทรงถูกคัดเลือกให้เป็นพระประมุขพระองค์ใหม่เมื่อวันที่ 24 มกราคมและมีพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในวันที่ 31 มกราคม โดยจะทรงหน้าที่สมเด็จพระราชาธิบดี หรือยังดีเปอร์ตวนอากงพระองค์ที่ 16 แห่งมาเลเซีย สืบต่อจากสมเด็จพระราชาธิบดีมูฮัมมัดที่ 5
บทบาทของพระมหากษัตริย์ของมาเลเซียทรงเป็นพระประมุขแห่งรัฐเชิงสัญลักษณ์ อำนาจในการปกครองที่แท้จริงเป็นของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี โดยพระมหากษัตริย์มีพระราชอำนาจดุลพินิจพิเศษ เช่น การพระราชทานอภัยโทษ และการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้มาเลเซียเป็นประเทศเดียวในโลกที่มีการหมุนเวียนกันสืบราชสมบัติ ซึ่งหมายความว่าตำแหน่งพระประมุขจะสืบทอดกันในหมู่ผู้ปกครองรัฐทั้งเก้า อันเป็นระบบการปกครองที่มีมาตั้งแต่มาเลเซียประกาศอิสรภาพจากอังกฤษเมื่อปี 1957 เป็นต้นมา