หากพูดถึงสถาบันการดนตรีระดับโลก หลายคนก็คงจะนึกถึง Berklee College of Music มหาวิทยาลัยเอกชนด้านดนตรีร่วมสมัยที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จ คว้ารางวัลใหญ่อย่าง Grammy Awards มามากกว่า 300 รางวัล และล่าสุดทางมหาวิทยาลัยได้ตอบรับ น้องแอลลี่-อชิรญา นิติพล ให้เข้าเรียนระดับปริญญาตรีในสาขา Music Business เป็นที่เรียบร้อย
สำหรับหลักสูตรปริญญาตรีที่ Berklee College of Music นั้น ทางมหาวิทยาลัยได้เปิดสอนครอบคลุมองค์ความรู้ในอุตสาหกรรมดนตรีตั้งแต่การแต่งเพลง การเแสดง ไปจนถึงการบริหาร ซึ่งวันนี้ HELLO! Education จะพาไปทำความรู้จักกับทั้ง 12 สาขา เพื่อเป็นแนวทางให้กับน้องๆ ที่มีความสนใจหรือชื่นชอบสายดนตรี

1. Composition
เรียนแต่งบทเพลงผ่านการทำโปรเจ็คที่หลากหลาย ทั้งการใช้โน้ตแต่งเพลงแบบเครื่องดนตรีเดี่ยว และแบบวง ควบคู่ไปกับการเรียนเรื่องดนตรีร่วมสมัย วงออเครสตร้า การประสานเสียงและทำนอง การวิเคราะห์เพลง และประวัติศาสตร์ดนตรี ไม่เพียงเท่านั้น ระหว่างการเรียน ผู้เรียนจะได้โอกาสในการทำงานร่วมกับคนหลากหลายกลุ่ม ทั้งนักดนตรี นักศึกษาสาขาอื่น รวมถึงศิลปินที่มีชื่อเสียงในวงการ เป็นต้น
2. Contemporary Writing and Production
ผู้เรียนจะได้พัฒนาทักษะการเขียน เรียบเรียง และโปรดักชั่นเพื่อผลิตงานเพลงออกมาในรูปแบบของมืออาชีพ สาขานี้จะช่วยให้ผู้เรียนได้ค้นหาบทบาทที่ชอบเพื่อนำไปต่อยอดเป็นอาชีพในอนาคต เช่น เป็นนักเขียนเพลง เป็นโปรดิวเซอร์ หรือเป็นคนคุมวงดนตรี เป็นต้น ในระหว่างการเรียน ผู้เรียนจะได้ฝึกทักษะต่างๆในสภาพแวดล้อมระดับมืออาชีพ เรียกว่าเป็นการผสมผสานการเรียนเข้ากับประสบการณ์ทำงานจริง
3. Electronic Production and Design
สาขานี้เป็นการผสมผสานกันระหว่างเทคโนโลยี การทดลองสิ่งใหม่ และความงามทางดนตรีเข้าด้วยกัน ผู้เรียนจะได้เรียนรู้วิธีการนำเทคโนโลยีต่างๆมาช่วยในการสร้างสรรค์และปรับใช้เพื่อผลิตงานเพลง ตั้งแต่กระบวนการแต่งเพลง แต่งเสียง และการใช้เครื่องดนตรีต่างๆ

4. Film Scoring
ผู้เรียนจะได้พัฒนาทักษะด้านการแต่งและตัดต่อเพลงเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ทีวี และวิดีโอเกมส์ โดยผู้เรียนจะได้เรียนตั้งแต่การแต่ง เรียบเรียง และการนำไปใช้ในสื่อต่างๆ ผู้เรียนจะไ้ด้เรียนรู้จากงานระดับมาสเตอร์พีซ ที่จะช่วยพัฒนาและต่อยอดคุณภาพงานเพลง เพื่อสามารถนำปรับใช้ในการประกอบอาชีพในวงการบันเทิงได้อีกด้วย
5. Jazz Composition
ย้อนกลับไปที่ประวัติศาสตร์ดนตรีแจ๊ส ตั้งแต่การแต่ง การเรียบเรียงโน้ตในหลากหลายรูปแบบ ผู้เรียนจะได้ฝึกตั้งแต่พื้นฐานดนตรีแจ๊ส ที่จะเป็นตัวช่วยต่อยอดการเป็นนักดนตรีของผู้เรียนได้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งในสาขานี้จะเน้นการวิเคราะห์ดนตรีที่หลากหลาย รวมไปถึงการแต่ง เรียบเรียง และโอกาสในการนำเพลงที่ผู้เรียนแต่งนั้น ขึ้นแสดงจริง
6. Music Business
ฝึกวิธีคิดแบบนักบริหาร เริ่มต้นด้วยการเรียนพื้นฐานด้านธุรกิจในอุตสาหกรรมดนตรี การคิดคอนเซปท์ รวมถึงทักษะที่จำเป็นสำหรับธุรกิจ ตั้งแต่การเข้าใจในมุมมองของนักดนตรี ไปจนถึงเรื่องกฎหมาย การบริหารการเงิน การบริหารศิลปิน และการรับมือกับปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น

7. Music Education
สาขานี้เหมาะสำหรับคนที่อยากเป็นครูสอนดนตรี หรือเป็นคนให้คำแนะนำด้านดนตรีกับนักดนตรีรุ่นหลัง ผู้เรียนสาขานี้จะได้ฝึกฝนวิธีที่จะช่วยดึงศักยภาพทางดนตรีของนักเรียนของคุณผ่านวิธีการต่างๆ ที่สร้างสรรค์และร่วมสมัย ไม่ว่าจะในเชิงทฤษฎี หรือปฎิบัติ เพื่อให้สามารถนำไปถ่ายทอดให้กับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
8. Music Production and Engineering
สาขานี้จะเตรียมผู้เรียนให้พร้อมสำหรับการเข้าไปอยู่ในอุตสาหกรรมการผลิตดนตรีและค่ายเพลงแบบมืออาชีพ ผู้เรียนจะได้พัฒนามุมมอง เข้าใจในระบบและเทคนิคต่างๆ ผ่านการทำงานในสตูดิโอและโปรเจ็คต่างๆ รวมถึงการทำงานร่วมกับผู้อื่นที่ต้องใช้การสื่อสาร การควบคุมกำหนดการในการผลิต
9. Music Therapy
เมื่อพลังของดนตรีผนวกกับการวิจัยทางคลินิกที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าหรือคนไข้ที่มีอาการแตกต่างหลากหลายกันออกไป สำหรับสาขานี้ผู้เรียนจะได้เรียนรู้วิธีเชื่อมโยง สร้างแรงบันดาลใจ และรักษาผู้อื่นโดยใช้ดนตรีบำบัด ในระหว่างการเรียน ผู้เรียนจะได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ผ่านการฝึกงาน การวิจัยทดลองทางคลินิก รวมถึงการร่วมงานกับนักดนตรี เพื่อนต่างคณะ และนักบำบัดสุขภาพมืออาชีพ นอกจากนี้ยังเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการสอบ Board Certification Examination เพื่อให้สามารถเข้าทำงานในโรงพยาบาลได้อีกด้วย

10. Performance
ผู้เรียนจะต้องเลือกเครื่องดนตรีหลักของตนเองก่อนเข้าเรียน โดยโปรแกรมการสอนจะให้ผู้เรียนได้เรียนทฤษฎี ฝึกทักษะการเล่น แนวคิด รวมถึงวิธีการ เทคนิคต่างๆที่ใช้กับเครื่องดนตรีที่ตนเลือก
11. Professional Music
สาขานี้เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้สร้างหนทางสู่วงการดนตรีด้วยตนเอง โดยการตั้งเป้าหมายที่ต้องการ หลังจากนั้นตลอดระยะการเรียน 4 ปี ผู้เรียนจะได้รับการจัดสรรวิชาที่เหมาะสมจากหลากหลายสาขา เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ตั้งแต่ต้น
12. Songwriting
ผู้เรียนจะได้เรียนรู้ตั้งแต่เมโลดี้ การประสานเสียง การเรียบเรียง ไปจนถึงการเขียนเนื้อร้อง พัฒนาให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งผู้เรียนสามารถเลือกได้ว่าจะเรียนเพื่อเขียนเพลงเพื่อแสดงเอง หรือเขียนให้ศิลปินท่านอื่น ถ้าเลือกเขียนเพลงให้ศิลปินอื่นๆ ผู้เรียนก็จะได้เรียนเรื่องเกี่ยวกับสตูดิโอและเทคนิคการทำเดโมเข้าไปด้วย
ทั้ง 12 สาขาวิชาในหลักสูตรปริญญาตรีของ Berklee College of Music นั้น ใช้เวลาเรียนทั้งหมด 4 ปี หรือ 8 ภาคการศึกษา โดยระหว่างการเรียน ผู้เรียนจะได้ร่วมงานกับเพื่อนต่างคณะ นักดนตรี ศิลปิน และมืออาชีพที่อยู่ในวงการเพลง รวมถึงยังเปิดโอกาสให้ได้ไปฝึกงานที่สตูดิโอของจริง เรียกได้ว่าแค่เข้าเรียน ก็เหมือนก้าวเท้าเข้าไปอยู่ในสายอาชีพทางดนตรีแล้ว
ข้อมูลและภาพจาก https://college.berklee.edu/