ฉลองครบรอบ 25 ปี ‘A. Lange & Söhne’ เผยโฉมเรือนเวลาสัญชาติเยอรมันโดยช่างฝีมือสุดปราณีต
เมื่อพูดถึงนาฬิกาบอกเลยว่ามีวิวัฒนการมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ยุคโบราณกาลอย่าง ‘นาฬิกาแดด’ ที่เรียกว่าเป็นสติปัญญาที่เกิดจากมนุษย์ยุคโบราณ โดยอาศัยการวัดความยาวของแสงเงา กาลเวลาผ่านไปกว่าพันปีจนเกิดเป็น ‘หอนาฬิกา’ แห่งแรกของโลก ณ มหาวิหารแห่งสตราซบูร์ ประเทศเยอรมันนี ปี ค.ศ.1352 และนี่ทำให้ เอ. ลังเงอ แอนด์ โซเนอ (A. Lange & Söhne) แบรนด์นาฬิกาเก่าแก่จากเยอรมัน ที่ก่อตั้งมานานตั้งแค่ปี ค.ศ. 1845 เป็นแบรนด์หนึ่งที่มีประวัติความเป็นมายาวนานและน่าสนใจ

สำหรับ เอ. ลังเงอ แอนด์ โซเนอ (A. Lange & Söhne) เรือนเวลาแบรนด์หรูสัญชาติเยอรมัน ที่เพิ่งเปิดตัวบูติคแห่งแรกในประเทศไทย ที่ถูกออกแบบให้คงเอกลักษณ์ของความเป็นแบรนด์ของเอ. ลังเงอ แอนด์ โซเนอ นั่นคือรูปแบบที่เห็นได้รอบด้านหรือ “ฟรีสแตนดิ้ง” (Freestanding) แห่งแรกของโลก ซึ่งตั้งอยู่บน ชั้น M ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยสามารถมองเห็นได้รอบแบบ 360 องศาทำให้ลูกค้าสามารถชื่นชมผลงานของแบรนด์ได้จากทุกๆด้านไปเมื่อไม่นานมานี้

และเนื่องในโอกาสครบรอบ 25 ปีของแบรนด์ได้มีการดีไซน์ผลงานชิ้นพิเศษของนาฬิการุ่นไอคอนในตระกูล Lange 1 (ที่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1994) จำนวน 10 รุ่นด้วยกัน โดยทยอยเปิดตัวเดือนละ 1 รุ่น ในงานแสดงเรือนเวลาระดับโลก SIHH 2019 ต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา และล่าสุดในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ นับว่าเป็นโฉมสุดท้ายของซีรีย์นี้ และแต่ละโฉมเรียกได้ว่าเป็นผลงานแบบลิมิเตดทุกชิ้น โดยโฉมที่ 1 ผลิตขึ้นมาเพียงแค่ 250 เรือนทั่วโลก และโฉมที่ 2-10 จะผลิตเพียงแค่ 25 เรือนเท่านั้น








นี่ล่ะค่ะ 9 ดีไซน์สวยหรู ที่เน้นบอดี้แบบเปลือกหลังโชว์ให้เห็นถึงกลไลของนาฬิกาที่บรรดาช่างฝีมือบรรจงร้อยเรียงและจัดวางฟันเฟืองทุกชิ้น ทำให้เชื่อเลยว่าแฟนๆคนรักเรือนเวลาจะต้องเฝ้าจับตาคอย ยลโฉมดีไซน์สุดท้ายที่ใกล้จะเผยโฉมในเร็ววันนี้ว่าจะออกมางดงามขนาดไหน แต่ที่แน่ๆต้องบอกเลยว่าแต่ละเรือนเป็นลิมิเตดมีจำนวนจำกัด เหล่านักสะสมต้องรีบแล้วล่ะค่ะ

และอีกรุ่นสำคัญที่เรียกว่าเป็นรุ่นไฮไลต์ ที่คงความเป็นเอกลักษณ์ของ เอ. ลังเงอ แอนด์ โซเนอ (A. Lange & Söhne) ก็คือ ไซต์แว็ค Zeitwerk ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 2009 โดยปีนี้ ถือเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปี ของ Zeitwerk ด้วยรุ่นใหม่ ‘Zeitwerk Date’ นับได้ว่าเป็นตำนาน เรื่องราวอันยิ่งใหญ่ที่ถ่ายทอดออกมาเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปีของ เอ. ลังเงอ แอนด์ โซเนอ (A. Lange & Söhne) จริงๆ