เครื่องประดับคอลเล็กชั่น Alhambra เป็นผลงานสร้างชื่อที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ตัวแทน Van Cleef & Arpels มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1968 โดยท้ายปี 2022 นี้ ได้กลับมาสุกสว่างสะกดสายตาอีกครั้งด้วยห้าผลงานรังสรรค์ใหม่โดยอาศัยทองคำขาวสลักลายรัศมีตะวัน “กวิโญเช” (guilloché) เป็นจุดเด่น นอกจากนั้น ยังมีนาฬิกาข้อมือตัวเรือนทองคำสีกุหลาบบนสายคาดร้อยลูกปัดสำหรับเป็นบทเติมเต็มให้แก่บรรดางานออกแบบ “เครื่องประดับนำโชค” อันอยู่เหนือกระแสความนิยมของยุคสมัย ( Alhambra )
เป็นเวลากว่าหลายปีที่โมทิฟแผ่นลายอัลลองบราได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นนวัตกรรมรังสรรค์ความสดใหม่ร่วมกับการใช้วัสดุเลอค่านานาชนิดขึ้น ครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างต่อเนื่อง อันจะเห็นได้จากปี ค.ศ. 1968 ที่เมซงได้สรรค์สร้างสร้อยคอยาวอัลลองบราเส้นแรกขึ้นโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากรูปทรงของใบโคลเวอร์สี่แฉก
โดยใบโคลเวอร์สี่แฉกนั้น เป็นสัญลักษณ์นำโชคตามความเชื่อของวัฒนธรรมสากล ใบโคลเวอร์ทั่วไปจะมีเพียงสามแฉก และเป็นที่เชื่อกันว่า ทุกหนึ่งพันต้น จะมีใบโคลเวอร์สี่แฉกเพียงหนึ่ง จึงถือว่าการค้นพบใบไม้หายากเช่นนี้ย่อมนำโชคมงคลมาสู่ตัว อีกทั้งยังถือกันว่าแต่ละแฉกของใบโคลเวอร์ล้วนสื่อความหมาย นั่นก็คือแฉกแรกเป็นตัวแทนแห่งความหวัง, แฉกที่สองคือศรัทธา, แฉกที่สามสื่อถึงความรัก และแฉกที่สี่คือโชคดี
อย่างเช่นในปีนี้ ที่ทางแบรนด์ได้ทำการต้อนรับสมาชิกใหม่สำหรับคอลเล็กชั่น Alhambra อันประกอบไปด้วยหนึ่งสร้อยคอยาว, หนึ่งจี้สร้อยคอ, หนึ่งสร้อยข้อมือ, หนึ่งแหวน กับต่างหูอีกหนึ่งคู่ ทั้งหมดนี้ล้วนโดดเด่นสะดุดตาด้วยงานฝีมือทองคำขาวสลักลายเส้นรัศมีตะวัน “กวิโญเช” (guilloché) เทคนิคอันให้ความสำคัญกับเวลา และความพิถีพิถันเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับผลงานเครื่องประดับทองคำขาวรุ่นใหม่เหล่านี้ มาพร้อมงานสลักลายเส้นจำลองที่เรียงริ้วเป็นร่องลึกลดหลั่นบนพื้นผิวเนื้อทอง รองรับแถวไข่มุกลูกปัดทองเดินขอบล้อมกรอบรอบรูปทรงใบโคลเวอร์สี่แฉก และเพิ่มจิตวิญญาณของแบรนด์ด้วยการออกแบบงานฝังลูกปัดทองคำขาวเม็ดเดี่ยวตรงกึ่งกลาง
สุดท้ายคือ นาฬิกาข้อมือ Sweet Alhambra รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมทองคำสีกุหลาบ นี่คืองานออกแบบ ซึ่งถือกำเนิดขึ้นบนจุดบรรจบระหว่างเทคนิคงานฝีมือลูกปัดทองอันทรงเอกลักษณ์ กับทักษะความชำนาญด้านการผลิตนาฬิกาข้อมือ
นาฬิกาข้อมือ Sweet Alhambra มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 23 มม., ตัวเรือนทองคำขาวฝังหน้าปัดแผ่นแม่มุกขาว, สายคาดทองคำสีกุหลาบสามารถสับเปลี่ยนได้, ขับเคลื่อนด้วยกลไกควอร์ตซ์ระบบสวิส นาฬิการุ่นนี้จึงเหมาะอย่างยิ่งในฐานะเครื่องประดับบอกเวลา ที่สามารถเติมความงามสง่าให้แก่ทุกลุคการแต่งกายประจำวัน พร้อมกับเป็นสื่อสะท้อนถึงความรู้สึก และอารมณ์ของผู้สวมใส่ในแต่ละวันได้อย่างดีเยี่ยม