ครั้งหนึ่งในชีวิตที่คุณไม่ควรพลาด..ชม ‘ไข่ฟาแบร์เช’ ผลงานสุดล้ำค่าแห่งประวัติศาสตร์รัสเซีย
ความล้ำค่าของอัญมณี ล้วนขึ้นอย่ากับความประณีตในการออกแบบ ยิ่งมีอัญมณีชิ้นนั้นมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่หาชมยากซุกซ่อนอยู่ด้วยยิ่งทำให้มูลค่าในตัวชิ้นงานเพิ่มสูงขึ้น และหาชมได้ยากมากขึ้นไปอีก และวันนี้ HELLO! ขอพาสาวๆ หรือแฟนๆที่ชื่นชอบเรื่องราวความสวยความงามอันล้ำค่าไปชื่นชมกับความประณีตของผลงานชิ้นเอกอย่าง ‘ไข่ฟาแบร์เช’ (Fabergé) ของขวัญล้ำค่าที่ทำขึ้นเพื่อมอบให้กับเหล่าราชวงศ์ในรัสเซีย

ด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงามอย่างมีเอกลักษณ์ และความประณีตในการสร้างสรรค์ลวดลายให้วิจิตร ทำให้ ‘ไข่ฟาแบร์เช’ (Fabergé) เรียกได้ว่าเป็นอัญมณีชั้นสูงที่หาชมได้ยากยิ่ง หากถามถึงประวัติความเป็นมาของของขวัญสุดล้ำค่าชิ้นนี้แล้วล่ะก็ว่ากันว่า ไข่ฟาแบร์เชนั้นมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน โดยในปี 1885 ‘พระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 3’ มีพระราชประสงค์ที่จะมอบไข่อีสเตอร์ให้แก่ ‘จักรพรรดินีมาเรีย เฟโดโรฟนา’ โดยได้มอบหมายให้ ‘นาย ปีเตอร์ คาร์ล แฟเบอร์เช’ ผู้เป็นหนึ่งในสุดยอดช่างทอง และอัญมณีที่มีชื่อเสียงในยุคนั้นเป็นผู้ออกแบบและผลิตขึ้นมา โดยไข่ใบแรกนั้นชื่อ Hen เป็นไข่ทำด้วยทอง มีเปลือกเป็นทองคำเคลือบเอนนาเมลขาวใส เมื่อเปิดออกมาจะเจอไข่แดงทองคำที่ยังสามารถเปิดได้อีกชั้น
โดยด้านในจะมีแม่ไก่ทองคำที่มาพร้อมรายละเอียดของการเรียงขนไก่ที่ดูละมุน แถมยังสามารถเปิดได้อีกด้วย โดยภายในเป็นมงกุฎจักรพรรดิเพชรขนาดเล็กที่ภายในบรรจุจี้ทับทิม จักรพรรดินีมาเรียทรงพอพระทัยกับของขวัญเป็นอันมาก ทำให้การมอบไข่ฟาแบร์เชกลายเป็นประเพณีที่ส่งต่อมาจนถึงพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 ที่ทรงมอบไข่ให้แก่พระอัครมเหสีและพระราชชนนี ซึ่งนายฟาแบร์เชยังเป็นผู้ที่ได้รับอภิสิทธิ์ในการออกแบบและสร้างสรรค์ไข่อีสเตอร์ให้กับราชวงศ์ต่อไป
ซึ่งเมื่อกาลเวลาผ่านไปช่างฝีมือ และเทคโนโลยีที่พัฒนามาขึ้น ทำให้ ‘ไข่ฟาแบร์เช’ (Fabergé) มีความสวยงาม และซับซ้อนมากขึ้นตามไปด้วยแต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม สิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ที่ขาดไม่ได้ของ ‘ไข่ฟาแบร์เช’ (Fabergé) ก็คือ ผู้ที่ได้รับจะต้องรู้สึกความประหลาดใจนั่นเอง ถึงขนาดทีคำกล่าที่ว่าไข่ 1 ชิ้นใช้เวลาผลิตนานถึง 1 ปีเลยทีเดียว
หากแต่หลายๆคนอาจจะรู้สึกตื่นตาตื่นใจ หรือไม่เคยเห็นเจ้า ‘ไข่ฟาแบร์เช’ (Fabergé) นี้อย่างแพร่หลายนักเป็นเพราะว่า ประเทศรัสเซียได้เกิดการปฏิวัติครั้งใหญ่ ทำให้งานศิลปะของฟาแบร์เชจึงกระจัดกระจายไปอยู่หลากหลายพื้นที่ในยุโรป หรือบางชิ้นก็สูญหายไปอย่างน่าเสียดาย
และในงาน Bangkok Gems and Jewelry Fair ครั้งนี้ บริษัท Russkiye Samotsvety บริษัทที่ก่อตั้งในสมัยพระเข้าซาร์นิโคลัสที่ 2 ลงทุนบินตรงมาเยี่ยมชมงานเพื่อเสาะหาวัตถุดิบในการผลิตไข่ฟาแบร์เช ของขวัญอัญล้ำค่าชนิดนี้ต่อไป ถ้าอยากรู้ว่างานนี้มีดีอะไร ทำไมบริษัทผู้ผลิตชิ้นงานล้ำค่าทางประวัติศาสตร์ของประเทศรัสเซียต้องบินตรงเพื่อมาเลือกวัตถุดิบด้วยตัวเองขนาดนี้ ลองมาสัมผัสงาน Bangkok Gems & Jewelry Fair ครั้งที่ 63 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 – 24 กุมภาพันธ์ 2562 ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี