นักสะสมนาฬิกาที่มีแต่คำว่ามาสเตอร์พีซ ‘ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ’

เพราะความหลงใหลในคุณค่าของงานศิลป์ ประกอบกับความชื่นชอบในเสน่ห์แห่งงานวิศวกรรมจักรกล กลายเป็นที่มาของคอลเลกชั่นเรือนเวลาสุดล้ำค่าที่เป็นหนึ่งในของสะสมแห่งความสุขของ ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหารแห่ง บมจ. เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ หรือ ASP ซึ่งต้องบอกว่าแต่ละเรือนของเขานั้น เป็นเรือนเวลาที่อยู่ในระดับที่เรียกได้ว่า “มาสเตอร์พีซ”และแรร์พีซที่ไม่สามารถหาชมจากที่ไหนได้ง่ายๆ ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ASP

^{Blancpain Tourbillon Transparence ผลงานสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่สร้างสรรค์ในตัวเรือนทอง 18k ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 50 เรือน}

“นาฬิกาเป็นเครื่องประดับที่รวมเอาเสน่ห์ที่น่าสนใจหลายอย่างมาไว้ในเรือนเดียว เช่นถ้าเป็นนาฬิกาสเกลตัน คุณก็จะเห็นถึงเสน่ห์ความตระการตาของจักรกลภายใน เห็นมิติของความซับซ้อน เห็นความละเอียดของชิ้นงาน ถ้าเป็นนาฬิกาทูร์บิญอง คุณจะเห็นเสน่ห์ด้านนวัตกรรมจักรกลในการต้านแรงโน้มถ่วงอันน่ามหัศจรรย์ หรือหากเป็นนาฬิกามินิธรีพีทเตอร์ คุณก็สามารถสัมผัสเสน่ห์ทางด้านเสียงเคาะระฆังของนาฬิกาเรือนเล็กๆ ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็จะมีเสียงที่ไพเราะกังวานไม่เหมือนกันเลย”

เรือนเวลาระดับมาสเตอร์พีซของ ดร.ก้องเกียรติ ส่วนใหญ่ได้จากการประมูลผ่านสถาบันการประมูลชั้นนำของโลก เนื่องจากเป็นนาฬิการุ่นพิเศษที่ไม่สามารถหาได้จากบูติกทั่วไป ดังนั้นกว่าจะได้นาฬิกามาแต่เรือน ดร.ก้องเกียรติต้องฟันผ่าการแย่งชิงจากนักสะสมทั่วโลก ดังนั้นสิ่งที่ได้มาจึงมาพร้อมกับความสุขและความภาคภูมิใจในฐานะผู้ชนะ โดยนาฬิกาที่ทำให้ดร.ก้องเกียรติ เต็มใจร่วมสู้เพื่อที่จะได้มานั้น มีหลักเกณฑ์ดังนี้

“อย่างแรกต้องชอบก่อน ดูปุ๊บต้องรู้สึกปิ๊ง อย่างที่สองราคาต้องอยู่ในงบประมาณที่ตั้งไว้ ชิ้นเดียวแต่ดีที่สุด และสามคือต้องมีความคุ้มค่าในการ”

เมื่อถามถึงนาฬิกาที่ทำให้รู้สึกประทับใจมากที่สุด ณ วันนี้ ดร.ก้องเกียรติไม่รีรอที่จะถลกแขนเสื้อโชว์นาฬิกา Cartier (คาร์เทียร์) เรือนสวยให้ดู พร้อมกับเล่าถึงที่มาแห่งความประทับใจดังนี้

^{Cartier Rotonde de Cartier Flying Tourbillon Skeleton หนึ่งในเรือนเวลาที่ประทับใจที่สุดของ ดร.ก้องเกียรติ}

“ ณ วันนี้ถ้าพูดถึงนาฬิกาเรือนที่ประทับใจสำหรับผมคงเป็น Cartier Skeleton Tourbillon (คาร์เทียร์ สเกลตัน ทูร์บิญอง) เรือนที่ใส่อยู่นี้ ได้มาเมื่อ 2 ปีที่แล้วในงานประจำปีที่เมืองคานส์ ซึ่งตอนนั้น Cartier เอานาฬิกามาโชว์ให้ดูหลายเรือน แต่มาสะดุดเรือนนี้เพราะว่า หนึ่งเป็นนาฬิกาสเกลตัน สองมีจักรกลทูร์บิญอง สามคือเป็นรุ่นพิเศษผลิตจำนวนจำกัด ก็เลยครบเงื่อนไข 3 ข้อ รวมกับเป็นนาฬิกาที่ออกแบบมาได้สวยงามทั้งภายนอกและภายใน ชิ้นส่วนกลไกต่างๆของนาฬิกาเรือนนี้มีการจัดเรียงที่สวยมาก ดูกี่ครั้งก็เพลินตา จึงตัดสินใจเอาตอนนั้นเลย พอได้ใส่รู้สึกว่าเหมาะกับตัวเองมากๆ รู้สึกว่าเป็นเรือนที่ใส่แล้วสวยที่สุดในบรรดานาฬิกาที่มีอยู่ จึงกลายเป็นเรือนโปรดและเรือนประทับใจมาถึงทุกวันนี้”

แม้นาฬิกาแต่ละเรือนจะมีความหายาก และมีมูลค่าราคาในระดับที่สูง แต่ทุกเรือนล้วนผ่านการใช้งานมาแล้วทั้งสิ้น เพราะนาฬิกาจะดูสวยที่สุด หรือมีคุณค่าสำหรับเจ้าของมากที่สุด ต่อเมื่อได้นำมาใช้งาน

^{Patek Philippe Golden Ellipse Ref.3738 สุดคลาสสิกในตัวเรือนทองกึ่งรีกึ่งเหลี่ยมที่เป็นเอกลักษณ์}

^{Breguet Minute Repeater Perpetual Calendar Limited Edition ความหรูหราที่ได้รับการสร้างสรรค์เพียง 3 เรือนในโลก ซึ่งเรือนนี้คือหมายเลข 1/3}

“ทุกเรือนซื้อมาต้องใช้ ไม่ว่าจะหายากหรือลิมิเต็ดแค่ไหนก็ต้องเอาออกมาใช้ นาฬิกาของผมไม่มีวันห่อซีลนอนแช่อยู่ในกล่องเฉยๆเป็นอันขาด จะพยายามเปลี่ยนเวียนใช้ทุกวัน เพราะเราลงุทนซื้อของพวกนี้มาเพราะเราต้องการเอ็นจอย ต้องการสวมใส่ใช้งาน ต้องการความสุขจากมัน นาฬิกาที่ซื้อมาแล้วปล่อยทิ้งไว้เฉยๆจะไปมีคุณค่าอะไร คุณค่าของนาฬิกาจะมีความสมบูรณ์ก็เมื่อมันได้มาอยู่บนข้อมือของเรา”