Home > Watches & Jewellery > อัญมณีมรดกของต้นสกุลสุจริตกุล ในการดูแลของ ดร.นฎาประไพ สุจริตกุล

ที่สุดแห่งความประทับใจจากบรรพบุรษ สมบัติที่มิอาจประเมินค่าได้ ตราตรึงไว้ด้วยความทรงจำล้นเปี่ยม ตกทอดสู่ทายาท รุ่นปัจจุบัน ( อัญมณี ของ สุจริตกุล )

คุณกีกี้เป็นธิดาคนกลางของ ดร.สมปอง สุจริตกุล อดีตเอกอัครราชทูตไทยใน หลายประเทศ กับคุณถ่ายเถา สุจริตกุล คุณแม่นักประพันธ์นวนิยายชื่อดังอย่าง มงกุฎดอกส้ม และดอกส้มสีทอง มีพี่ชาย คุณสมเถา สุจริตกุล เป็นนักเขียนและนักประพันธ์เพลงคลาสสิก ส่วนน้องสาวคนเล็ก คุณเปรมิกา ก็เป็นสาวคนเก่งของสังคมไทย ส่วนตัวคุณกีกี้เป็นสาวสุจริตกุล ที่เลื่องลือด้านความงามและ มีบทบาททางสังคม เธอ สมรสกับ คุณยศ เอื้อชูเกียรติ มีบุตรสองคนคือ ภูมิ – ภัทร เอื้อชูเกียรติ เธอเกริ่นเข้าสู่ความประทับใจ แรกว่า

“ความผูกพันทางด้านวัตถุ คงไม่มากเท่าความผูกพัน ทางด้านจิตใจ โดยเฉพาะความภูมิใจที่ ตระกูลสุจริตกุล ตั้งแต่บรรพบุรุษได้ถวายงานรับใช้ พระเจ้าแผ่นดินมาหลายรัชกาล จนกระทั่งถึงรัชกาลปัจจุบัน ตระกูลเราได้ทำประโยชน์ไว้ให้กับแผ่นดินไม่น้อย และ มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งการได้เกิดมาเป็นทายาทหนึ่งในสายเลือดของสกุลสุจริตกุล จึงนับว่าน่าภาคภูมิใจยิ่งนัก”

ตราประจำตระกูลจึงเป็นของชิ้นที่รู้สึกมีคุณค่าและเต็มไปด้วยผูกพัน โดยมีเป็นสัญลักษณ์นาคพันแตงเนื่องจากต้นตระกูลเป็นผู้หญิงคือ ท้าวสุจริตธำรง (เดิมชื่อ นาค ) สมรสกับ หลวงอาสาสำแดง (เดิมชื่อ แตง) และมีคาถาภาษาบาลีกำกับว่า ‘ธมฺมํ สุจริตํ จเร’ แปลว่า พึงประพฤติธรรมให้สุจริต อันมาจากพุทธวจนะ ที่ทรงเทศน์โปรดพุทธบิดา”

“อีกชิ้นคือ ล็อกเก็ตพระรูปของสมเด็จพระปิยมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา (เจ้าคุณจอมมารดาเปี่ยมใน รัชกาลที่ 4 พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ) ซึ่งเป็นธิดาของท้าวสุจริตธำรง และเป็นพระมารดาในสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า และสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง ซึ่งทั้งสามพระองค์ เป็นพระอัครมเหสีใน รัชกาลที่ 5- พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ล็อกเก็ตนี้ตกทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น จนถึงพระสุจริตสุดา (เปรื่อง สุจริตกุล) พระสนมเอกในรัชกาลที่ 6  พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆ ของ คุณปู่ และได้มอบให้คุณพ่อ เราจึงได้รับมาอีกทอดหนึ่ง เป็นล็อกเก็ตพระรูปออริจินัล ไม่ได้ดัดแปลงใดๆ ทั้งสิ้น จำได้ว่าตอนที่ คุณพ่อคุณแม่จัดงานแต่งงานครบรอบ 50 ปี (20 ปีที่แล้ว) คุณแม่มอบของชิ้นนี้ให้อาจเพราะเราเป็นลูกสาวคนโต ซึ่งมีเพียงชิ้นเดียว ส่วน โชคเกอร์ของสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจีฯ คุณแม่มอบให้น้องไปดูแล”

“สิ่งสำคัญถัดมาคือ ตราสัญลักษณ์ของสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจีฯ ซึ่งเป็น พระราชินีพระองค์เดียวในรัชกาลที่ 6 – พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (เดิมชื่อ ประไพ สุจริตกุล ทายาทสายพระยาราชภักดี) เป็นน้องสาวแท้ๆ ของคุณปู่ เราจึงมีชื่อ นฎาประไพ สำหรับตราประจำของสมเด็จอินทร์ คือรูปนกยูง ไม่ทราบว่ามีกี่ชิ้นกันแน่ แต่ที่ทราบคือ มีทั้งเพชรและทับทิม สมบัติล้ำค่าที่ตกทอดมาถึงรุ่นเรา”

“นอกจากนี้ยังมีเหรียญสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร หรือเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ พระราชโอรสพระองค์โตใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5 พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) กับสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ซึ่งสมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศทรงมีศักดิ์เป็น พระบรมราชปิตุลา (ลุง) ในพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว รัชกาลที่ 9”

นอกจากของทรงคุณค่าที่หาชมได้ยาก ซึ่งคุณกีกี้ได้รับตกทอดมาจากบรรพบุรุษหลายต่อหลายรุ่นแล้ว ความที่เป็นบุตรสาวคนโตเธอจึงค่อนข้างมีความใกล้ชิดสนิทสนมกับคุณแม่ และมีความชอบอะไรหลายอย่างคล้ายกัน ทั้งรสนิยมในการแต่งกาย รวมถึงสิ่งของ เครื่องประดับ

“สมัยก่อนคุณแม่ชอบแต่งชุดไทย…สวยมาก คนไทยส่วนใหญ่อาจมองว่าแต่งชุดไทยดูโบราณ แต่เรากลับชอบมาก เพราะสมัยก่อนคุณพ่อเป็นเอกอัครราชทูตไปประจำ หลายประเทศ เวลามีงานวันชาติต้องแต่งชุดไทย คุณแม่มักจะแต่งกายชุดไทย พร้อมด้วยเครื่องประดับไทยโบราณๆ ส่วนตัวเองด้วยความที่เรียนรำละครตั้งแต่อายุ 3 ขวบ ก็จะได้แต่งชุดไทยใส่เครื่่องประดับไทยโบราณจากคุณแม่บ้าง ซึ่งชิ้นนี้ถือเป็นชิ้นโปรดของคุณแม่ ‘เข็มขัดทอง’ ประกอบด้วย เข็มขัด หัวเข็มขัด ทับทรวง รวมถึงต่างหูก็ทำจากเพชรซีก นับเป็นฝีมือช่างโบราณที่รังสรรค์ออกมาอย่างงดงาม ทั้งเซ็ตนี้คุณแม่ให้มาพร้อมกัน

การได้รับการเลี้ยงดูและเติบโตมาในท่ามกลางความอบอุ่นของครอบครัว สุจริตกุล คุณกีกี้บอกว่า บุพการีไม่ได้เน้นที่วัตถุสิ่งของ แต่มักจะสอนเรื่องการใช้ชีวิต และสิ่งที่คุณพ่อพร่ำสอนคือการให้การศึกษาที่ดีที่สุดกับลูกทุกคน  ท่านบอกความรู้เป็นสิ่งสำคัญ ทรัพย์สมบัติจริงๆ ถ้าเราไม่มีความรู้ก็คงรักษาไว้ไม่ได้ และความผูกพันที่ แท้จริง คือการสืบทอดความดีงามของวงศ์ตระกูล และสิ่งสำคัญคือภูมิใจที่เกิดมาในตระกูลนี้ เพราะทำประโยชน์ให้กับแผ่นดินในหลายๆ ด้าน การได้เกิดมาเป็นคนไทย ข้าแผ่นดินภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างที่สุดในชีวิตแล้ว”

Never miss an update

Subscribe to our newsletter to get the latest updates.

No Thanks
You’re all set

Thank you for your subscription.