นิยามความงาม และตัวแทนความรักสุดล้ำค่าของบ่าวสาวป้ายแดง ‘แพรดาว พานิชสมัย – แดน เหตระกูล’
บ่าวสาวป้ายแดงคู่ล่าสุด ความรักที่พัฒนาขึ้นจากความประทับใจ กลายเป็นความผูกพันและสานต่อเป็นความรักอย่างจริงจังในเวลาต่อมา แม้จะเป็นเพียงระยะเวลาแค่ 2 ปีที่ทั้งคู่ได้คบหาดูใจกัน แต่นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ความรักของทั้ง คุณมัดมุก-แพรดาว พานิชสมัย และ คุณแดน เหตระกูล ได้เป็นอย่างดีว่า นี่คืออีกหนึ่ง “คู่แท้” ที่โชคชะตาได้นำพาให้ทั้งสองคนมาพบกัน และใช้ชีวิตร่วมกันในท้ายที่สุด
“ผมคิดว่าระยะเวลามันคงไม่ใช่ตัวชี้วัดคุณภาพของความรักเสมอไป เพราะสิ่งสำคัญสำหรับผมก็คือ การสร้างคุณค่าในความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคนมากกว่า อย่างช่วงที่เราสองคนคบกัน เราทั้งคู่ก็มีโอกาสได้ใช้เวลาด้วยกันหรือแม้แต่ได้ทำงานร่วมกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้เราได้เรียนรู้มุมมองความคิดในด้านต่างๆ รวมถึงไลฟ์สไตล์ของกันและกันไปในตัว อย่างตอนนี้น้องกำลังมีโปรเจคต์ธุรกิจด้านสุขภาพที่กำลังจะเปิดตัวในเร็วๆ นี้ ซึ่งผมเองก็ช่วยให้คำแนะนำกับน้องไปหลายเรื่องเหมือนกัน น้องเองก็มีความสุขที่ได้ทำในสิ่งที่เขารัก ส่วนตัวผมเองก็มีความสุขที่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันธุรกิจที่น้องตั้งใจทำให้กลายเป็นรูปเป็นร่าง” คุณแดนเริ่มต้นบทสนทนาด้วยท่าทีสบายๆ ภายใต้สีหน้าที่บ่งบอกถึงความสุขของการเริ่มต้นชีวิตครอบครัวอย่างเป็นทางการ
ชีวิตหลังแต่งงานของทั้งคู่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปบ้างหรือเปล่า “จริงๆ ตารางชีวิตผมก็เหมือนเดิมนะ แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือชีวิตผมมีความสุขมากขึ้น เพราะมีน้องเข้ามาแชร์ช่วงเวลาต่างๆ ในชีวิตของผม” คุณแดนเล่าสั้นๆ แต่ทำเอาคนฟังอย่างคุณมัดมุกอดอมยิ้มตามไม่ได้
“สำหรับมัดมุก หลังแต่งงานแล้ว จากแต่ก่อนที่เราอาจจะเคยใช้ชีวิตบนความเสี่ยง ความเสี่ยงในที่นี้คือหมายถึงชอบเล่นกีฬาที่มีความโลดโผนและท้าทาย (หัวเราะ) แต่ตอนนี้ก็ต้องเล่นอย่างมีสติมากขึ้น ต้องดูแลตัวเองทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ เพราะตอนนี้เราก็ไม่ได้ตัวคนเดียวเหมือนแต่ก่อน ยิ่งเรากำลังเริ่มต้นสร้างครอบครัว เราก็อยากมีครอบครัวที่อบอุ่นและแข็งแรง ที่สำคัญคือเราทั้งคู่วางแผนที่จะมีลูกในช่วงปีหน้า มัดมุดเองก็ยิ่งต้องดูและสุขภาพร่างกายของตัวเองให้สมบูรณ์แข็งแรงมากยิ่งขึ้นด้วย”
นอกเหนือจากความคล้ายคลึงกันของลักษณะนิสัยในหลายๆ ด้านของคุณแดนและคุณมัดมุก อีกหนึ่งสิ่งที่ดูจะตอกย้ำความเป็นเนื้อคู่ตัวจริงของทั้งสองคนนี้นั่นก็คือ สไตล์ส่วนตัวและรสนิยมด้านแฟชั่นที่ล้วนเป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างลงตัว “ในกลุ่มเพื่อนๆ ของผมที่สนิทกัน เขาจะให้นิยามตัวผมว่า ‘Dan He The Cool’ ซึ่งอารมณ์ก็คงประมาณว่าแซวกันสนุกๆ เพราะผมก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นคนที่คูลอะไรมากนัก (หัวเราะ) แต่มาคิดๆ ดู ความคูลที่เพื่อนๆ พูดถึงส่วนหนึ่งก็อาจจะหมายถึงสไตล์การแต่งตัวของผมก็เป็นได้ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ตอนนี้ผมก็คงไม่ได้คูลแค่คนเดียว เพราะสไตล์ของน้องดูคูลมากกว่าผมซะอีก ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องเรียกว่าเป็น Mr. & Mrs. Cool แล้วล่ะครับ”
แอคเซสเซอรี่ต่างๆ ยังถือเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่ทั้งคุณแดนและคุณมัดมุกต่างให้ความสำคัญในการเลือกสรรไม่แพ้กับเสื้อผ้าที่สวมใส่ “ส่วนใหญ่แอคเซสเซอรี่ที่ผมใช้อยู่บ่อยๆ ก็จะเป็นแอคเซสเซอรี่ทั่วไปที่ผู้ชายเขาใช้กัน อย่างรองเท้า เข็มขัด เนคไท แล้วก็นาฬิกาข้อมือ ซึ่งเวลาเลือก ผมก็จะเลือกดีไซน์เรียบๆ ที่ไม่หวือหวา เพราะเราเป็นผู้ชาย บางอย่างถ้ามันดูมากเกินไปมันก็คงดูไม่ดีนัก แล้วก็ต้องเลือกในสิ่งที่เหมาะกับตัวเองและช่วยส่งเสริมให้ตัวเองดูดีมากยิ่งขึ้นด้วย”
“สำหรับมัดมุก แอคเซสเซอรี่ก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เหมือนกัน โดยเฉพาะพวกเครื่องประดับต่างๆ อย่างแหวน ตุ้มหู หรือสร้อยคอ ซึ่งถือเป็นเครื่องประดับคู่กายของผู้หญิงทุกคนเลยล่ะ ส่วนเวลาที่มัดมุกเลือกซื้อเครื่องประดับจิวเวลรี่ที่มีราคาสูงมากๆ อย่างเพชร สิ่งที่มัดมุกจะคำนึงถึงเป็นอันดับแรกเลยก็คือ ดีไซน์ต้องสวยคลาสสิคและต้องมีความทันสมัยอยู่ในตัว เพราะจะทำให้จิวเวลรี่ชิ้นนั้นใช้งานได้หลายโอกาส และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือเรื่องคุณภาพของเพชรที่ต้องได้มาตรฐานในระดับสากล อย่างแบรนด์จิวเวลรี่ ‘Gems Pavilion’ ที่มัดมุกมีโอกาสได้สวมใส่ในการถ่ายแฟชั่นเซ็ทในครั้งนี้ ต้องบอกก่อนเลยว่าส่วนตัวแล้วรู้จักและได้ยินชื่อ Gems Pavilion มานานแล้วค่ะ แต่พอได้เห็นชิ้นงานเครื่องประดับของเขาแบบใกล้ๆ ในวันนี้ก็ยิ่งรู้สึกประทับใจมาก คิดว่าเดี๋ยวถ้ามีเวลาว่างคงต้องแวะไปที่ร้านแล้วล่ะ (ยิ้ม) ส่วนถ้าถามว่าชอบชิ้นไหนเป็นพิเศษ คิดว่าน่าจะเป็นแหวนเพชร Eternity เพราะชอบเทคนิคการเจียระไนของแบรนด์ที่มีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีความสวยและมีเสน่ห์แตกต่างกันไป แถมยังมีดีไซน์ทันสมัยที่ทำให้เราสามารถมิกซ์แอนด์แมทช์กับการแต่งตัวได้ทุกลุคเลยค่ะ”
“ในความคิดของมัดมุก แบรนด์จิวเวลรี่ของไทยในทุกวันนี้ต่างก็มีการพัฒนาการในทุกๆ ด้านมากยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อน จนสามารถสร้างมาตรฐานระดับสูงให้กับแบรนด์ของตัวเองได้ไม่แพ้แบรนด์จิวเวลรี่ของต่างประเทศเลยค่ะ โดยเฉพาะในด้านทักษะช่างฝีมือของคนไทยที่มีความประณีตละเอียดอ่อนมากจริงๆ ขนาดเพื่อนๆ ชาวต่างชาติของมัดมุกก็ยังชอบบินมาช้อปแบรนด์จิวเวลรี่ของไทยอยู่บ่อยๆ เพราะเขารู้สึกเชื่อมั่นและยอมรับในคุณภาพสินค้าของไทยเป็นพิเศษ เราเองก็อดภูมิใจไม่ได้และมัดมุกเองก็พูดได้เต็มปากเลยว่า ตัวเองก็เป็นแฟนพันธุ์แท้คนหนึ่งของแบรนด์จิวเวลรี่ไทยเช่นกันค่ะ”