Home > Watches & Jewellery > ต่อยอดความวิจิตรตระการตา กับการนำสรรพสัตว์แห่งพงไพรมาดีไซน์เป็นคอลเลกชั่นใหม่ Indomptables de Cartier

เมื่อพูดถึงแบรนด์เครื่องประดับสัญชาติฝรั่งเศส ทุกคนย่อมนึกถึงแบรนด์ ‘คาร์เทียร์’ (Cartier) อย่างแน่นนอน ที่โดดเด่นในเรื่องของรูปแบบการดีไซน์ รวมถึงการนำคาแรกเตอร์ของราชันแห่งพงไพรอย่าง ‘เสือแพนเตอร์’ มาเป็นส่วนสำคัญในการออกแบบ และล่าสุดกับการเปิดตัวคอลเลกชั่น แองดอมตาบล์ เดอ คาร์เทียร์ (Indomptables de Cartier) คอลเลคชั่นเครื่องประดับและเรือนเวลาที่นำสรรพสัตว์แห่งพงไพรอันเป็นเอกลักษณ์ของคาร์เทียร์อย่าง เสือ ยีราฟ จระเข้ และม้าลาย ให้มาโลดแล่นอยู่บนเครื่องประดับและเรือนเวลาที่ผนวกทั้งเทคนิคชั้นสูง งานหัตถศิลป์อันวิจิตรตระการตา

คอลเลคชั่นแองดอมตาบล์ เดอ คาร์เทียร์ (Indomptables de Cartier)

ดีเทลของการออกแบบโดยการนำสรรพสัตว์ต่างๆ ให้มาย่างกายอย่างงดงามอันเป็นส่วนสำคัญให้การออกแบบเครื่องประดับ และเรือนเวลาให้หรูหรา วิจิตรอย่างลงตัว ปลุกเร้าการเผชิญหน้าอันเหนือความคาดหมายของบรรดาสัตว์สัญลักษณ์ประจำเมซง แนวคิดหลักของคอลเลคชั่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากเครื่องประดับสไตล์ Tête-à-Tête หรือเครื่องประดับที่มีดีไซน์หัวของทั้งสองด้านประจันหน้าเข้าหากัน ทั้งกำไลข้อมือ สร้อยคอ และเรือนเวลาที่ประดับด้วยรูปหัวสัตว์สองชนิดจากสรรพสัตว์ระดับไอคอนของคาร์เทียร์

สำหรับคอลเลคชั่นแองดอมตาบล์ เดอ คาร์เทียร์ เมซงไม่เกรงกลัวที่จะรังสรรค์เครื่องประดับที่ประยุกต์ใส่ได้หลากหลายโอกาส ผ่านชิ้นงานเรียบโก้ทรงกราฟิกพร้อมคาแรคเตอร์ที่เด่นชัด อย่างเช่นกำไลข้อมือ นาฬิกา และสร้อยคอชิ้นใหญ่ที่แลดูทรงพลัง โครงสร้างโดดเด่นไล่เรียงตั้งแต่หูถึงสันกราม ดวงตาและจมูกของสัตว์แต่ละชนิด เป็นความงดงามที่ขมวดเส้นสายเข้าด้วยกันอย่างพอดิบพอดี คอลเลคชั่นแสนวิจิตรนี้ถูกเนรมิตโดยสตูดิโอสร้างสรรค์เครื่องประดับและเรือนเวลาของคาร์เทียร์ให้มีคาแรคเตอร์ที่เหนือจินตนาการ เพื่อขับเน้นทุกมิติของทุกรายละเอียด ประกอบด้วยสิบชิ้นงานตระการตาที่ล้วนโอบอุ้มทุกความโดนเด่นอันเป็นอัตลักษณ์ของเมซง

กำไลข้อมือทั้งหมดห้าแบบ มีให้เลือกทั้งแบบไวท์โกลด์ฝังเพชรหรือเยลโลโกลด์ล้วน สำหรับดีไซน์ไวท์โกลด์ประดับเพชรนั้น เสือจะเผชิญหน้ากับยีราฟ และจระเข้จะจ้องตากับม้าลาย ส่วนแบบเยลโลโกลด์ ม้าลายจะถูกจับคู่กับเสือแพนเตอร์หรือจระเข้ และเสือจะคู่กับยีราฟ 

นอกจากนี้ ยังมีสร้อยคอชิ้นใหญ่ที่สามารถสวมใส่เป็นโชคเกอร์ซึ่งมีให้เลือกสองดีไซน์ แบบแรกคือสร้อยคอเยลโลโกลด์ที่มาพร้อมการประจันหน้าระหว่างม้าลายและเสือแพนเตอร์โดยสลับลายสีดำอันเป็นเอกลักษณ์ของกันและกัน และแบบฝังเพชรทั่วตัวเรือนที่นำยีราฟและเสือมาเผชิญหน้ากัน นอกจากนั้นยังมีเรือนเวลาอีกสามแบบที่มาพร้อมหน้าปัดฝังเพชรแบบลายจุดหนังชากรีน (Shagreen) ประดับบาร์สองข้าง ด้านหนึ่งเป็นเสือแพนเตอร์ และอีกด้านหนึ่งถูกประดับด้วยจระเข้ ม้าลาย หรือเสือ โดยส่วนหัวสัตว์ทั้งสามแบบสามารถถอดออกเพื่อสวมใส่บนข้อมือได้ด้วยกลไก Clasp System เทคนิคใหม่ล่าสุดจากคาร์เทียร์ที่อำพรางสลักของนาฬิกาไว้อย่างแยบยล

การรังสรรค์จิตวิญญาณของสรรพสัตว์: ความท้าทายแห่งหัตถศิลป์

ความริเริ่มสร้างสรรค์ น่าอัศจรรย์ใจและแฝงด้วยลูกเล่นเป็นบริบทของเครื่องประดับคอลเลคชั่นแองดอมตาบล์ ซึ่งเป็นชิ้นงานที่กินเวลาชั่วโมงแล้วชั่วโมงเล่าในดีไซน์สตูดิโอของคาร์เทียร์ เสาะแสวงหาวิธีการใหม่ๆ ให้กับการประดับหินออนิกซ์ลงบนตัวยีราฟหรือจมูกของเสือแพนเตอร์เฉกเช่นเดียวกับหลากหลายเทคนิควิธีการฝังเพชรที่คาร์เทียร์ได้ค้นคว้าทุกความเป็นไปได้เพื่อรังสรรค์ผลงานออกมางดงามเหนือความคาดหมาย

วิธีการฝังเพชรแบบ Shagreen Setting อีกเทคนิคที่ถูกเลือกมาใช้แต่งแต้มลายให้กับเหล่าสัตว์ประจำคอลเลคชั่นนี้ โดยเป็นวิธีการฝังที่สามารถทำให้อัญมณียิ่งทวีความเปล่งประกายระยิบระยับ การฝังเพชรแบบ Illusion Setting บนกำไลข้อมือจระเข้ใช้วิธีการหักเหเหลี่ยมมุมของเนื้อทองเพื่อสร้างภาพลวงตาบริเวณที่ทองกับเพชรผสานกัน และสุดท้ายคือวิธีการฝังอัญมณีแบบ Fur Setting ซึ่งเป็นรูปแบบการฝังอัญมณีเฉพาะตัวของเมซงคาร์เทียร์สำหรับสัตว์แต่ละชนิด โดยการล้อมอัญมณีแต่ละเม็ดด้วยกรอบทองขนาดจิ๋วกดเป็นลายเรียงรายกัน เพื่อให้อัญมณีแต่ละเม็ดดูราวกับขนเฟอร์เสมือนจริง

แต็ทอาแต็ท (Tête-à-Tête) แนวคิดอันเป็นหัวใจของคาร์เทียร์

เสือ ม้าลาย ยีราฟ และจระเข้ คือสัตว์สี่ชนิดที่บ่งบอกคาเร็คเตอร์ของสรรพสัตว์แห่งคาร์เทียร์ได้เป็นอย่างดี โดยทั้งหมดอยู่ใต้อาณัติของสัตว์ที่เป็นดั่งสัญลักษณ์สูงสุดของเมซงคาร์เทียร์ ซึ่งก็คือเสือแพนเตอร์นั่นเอง ที่ผ่านมา คาร์เทียร์ได้นำบรรดาสัตว์นานาชนิดมาเผชิญหน้ากันอยู่หลายครั้ง โดยดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมายุคโบราณนี้ ได้ถูกเมซงคาร์เทียร์นำมาใช้และได้รับความนิยมภายในเวลาอันรวดเร็วในช่วงปี 1930 และหลังจาก 2 ทศวรรษผ่านไป ฌาน ตูแซงท์ (Jeanne Toussaint) ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของคาร์เทียร์ในสมัยนั้นก็ได้ฟื้นคืนชีวิตให้ชิ้นงานนี้อีกครั้ง เธอได้ปลุกพลังแห่งการสร้างสรรค์เครื่องประดับให้สมจริงที่สุดและได้ท้าทายเหล่านักออกแบบและช่างฝีมือให้ระดมกำลังในการตีความสรรพสัตว์แห่งพงไพรให้สมจริงยิ่งกว่าที่เคย โดยมีเสือแพนเตอร์เป็นที่สุดแห่งสัญลักษณ์ คำว่า “ตูแซงท์เทสท์ (Toussaint Taste)” หรือ รสนิยมตูแซงท์ ซึ่งเป็นคำจากปากของตูแซงท์เอง อันแปลได้ว่า รสนิยมอย่างล้ำลึก (Taste for Depth) ด้วยความหลงใหลอันแรงกล้าที่เธอมีต่องานประติมากรรมและสถาปัตยกรรม เธอจึงให้ความสำคัญกับการเน้นขนาดและมิติต่างๆ ให้โดดเด่น และกำไลข้อมือแบบสองหัวชิ้นนี้ก็นับเป็นตัวอย่างชั้นดีของแนวคิดดังกล่าว

“ด้วยรูปทรง สีสัน โครงสร้าง และ ผลลัพธ์แห่งมิติผนวกการสรรสร้างสไตล์กำไลข้อมือแต็ทอาแต็ท (Tête-à-Tête) คอลเลคชั่นนี้จึงเผยมิติที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกับหมู่สรรพสัตว์แห่งคาร์เทียร์และขุมพลังทางสัญลักษณ์ เครื่องประดับรูปสัตว์มีสมรรถภาพอย่างยิ่งในการสะท้อนบุคลิกของผู้สวมใส่ เฉกเช่นเดียวกับห้วงอารมณ์ความรู้สึก ทัศนคติ และปัจเจกลักษณะต่างๆ ของพวกเขา นับเป็นโอกาสที่ดีในการสื่อสารตัวตนที่แท้จริงออกมา” ปิแอร์ ไรเนโร (Pierre Rainero) ผู้อำนวยการฝ่ายภาพลักษณ์, สไตล์ และเฮอริเทจ ของคาร์เทียร์

Never miss an update

Subscribe to our newsletter to get the latest updates.

No Thanks
You’re all set

Thank you for your subscription.