Home > Watches & Jewellery > Jewellery > เปิดอาณาจักรของ ‘ซินดี้ เชา’ ยกระดับเครื่องประดับสู่งานศิลป์อันยิ่งใหญ่

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ‘ซินดี้ เชา’ (CINDY CHAO) เจ้าของแบรนด์อัญมณี ได้จัดงานแสดงสุดยิ่งใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ ภายในงานนิทรรศการนี้ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของเธอในฐานะช่างอัญมณีชาวเอเชียร่วมสมัย และแก่นความเป็นศิลปะของแบรนด์ที่คงอยู่ตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2004

โดยเธอได้ร่วมมือกับ ทอม โพสต์มา ศิลปินชื่อดังชาวเนเธอร์แลนด์เป็นครั้งที่ 3 แล้วในการจัดแสดงเครื่องประดับ ครั้งนี้ทั้งคู่ได้ร่วมกันนำเสนองานนิทรรศการแบบศิลปะจัดวางผ่านคอนเซ็ปต์ “The Endless Realm” เพื่อพาทุกคนออกเดินทางไปพบกับมิติใหม่ของสถานที่และห้วงเวลา

“ชีวิตนั้นเป็นนิรันดร์ ถึงแม้การเดินทางบนโลกของเราจะมีจุดสิ้นสุด แต่จิตวิญญาณและมรดกที่เราได้ทำไว้จะคงอยู่ตลอดไป”

ซินดี้ เชา กล่าว

ณ จุดเริ่มต้นของแรงบันดาลใจ

งานจัดแสดงครั้งนี้ตั้งขึ้นที่อาคารสามชั้นของ Shanghai Bund Fosun Art Center โดยชั้นแรกสุดมีชื่อว่า ‘Inspiration Initiation’ เผยโฉมภาพสเก็ตช์เครื่องประดับและอัญมณีของ ซินดี้ เชา ฉายขึ้นบนกำแพงรอบด้าน ผ่านชั้นของผืนผ้าใบ ที่ติดตั้งไฟ LED ไว้ด้านหลัง ก่อให้เกิดมิติของแสงและเงาอันงดงาม

โดย ซินดี้ เชา ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ‘ภูมิทัศน์’ ที่ผู้คนมักเดินทางไปอยู่กับธรรมชาติเพื่อหาความสงบ ทำสมาธิ ไตร่ตรอง และกลับมาเริ่มต้นใหม่ เช่นเดียวกันกับงานในชั้นแรกสุดของเธอ ที่นำเสนอภาพสเก็ตช์ออกมาในรูปแบบคล้ายภูมิทัศน์ ให้ผู้คนได้หลบหนีจากความวุ่นวายของใจกลางนครเซี่ยงไฮ้ และออกเดินทางท่องไปในโลกจินตนาการของเธอ

ดินแดนแห่งศิลปะ

ถัดขึ้นมายังชั้นสอง จะได้พบกับความมืดมิดอันเป็นนิรันดร์ ‘The Land of Art’ ณ ที่ซึ่งสถานที่และเวลาได้หลอมรวมกันขึ้นมาเป็นศิลปะจัดวางแบบสามมิติ พร้อมมอบประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสอย่างเต็มที่

เพื่อแปลงโฉมชั้นสองให้กลายเป็นจักรวาลแห่งจินตนาการของ ซินดี้ เชา นั้น ทีมของ ทอม โพสต์มา ต้องเจอกับอุปสรรคหลากหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น การใช้ผ้าสีดำปูไปบนพื้นที่ทุกตารางนิ้ว เพื่อสร้างจักรวาลอันมืดมิด ก่อให้เกิดความรู้สึกหลงลอยโดยไม่รู้ขอบเขตและจุดสิ้นสุด

ศาลาลอยน้ำ ในงานจัดแสดง ‘The Land of Art’ ชั้น 2

นอกจากนี้ยังต้องใช้น้ำปริมาณมหาศาลควบคู่กับกระจก เพื่อสร้างภาพเลียนแบบของก้นทะเลลึก และยังต้องแทรกช่องว่างด้วยแสงของดวงดาว ซึ่งแต่ละตำแหน่งที่จัดวางแสงไฟนั้นได้รับการคำนวณมาอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว ว่าเป็นการจำลองท้องฟ้ายามค่ำคืน ขณะที่จังหวะการกระพริบนั้นเลียนแบบจังหวะการหายใจและการเต้นของหัวใจ

ซินดี้ เชา เล่าถึงแพชชั่นของเธอว่า “ในหัวใจของฉัน มีแค่ศิลปะเท่านั้น ฉันไม่มีข้อจำกัดหรือขอบเขตสำหรับคำว่า สมบูรณ์แบบ การคิดค้นสิ่งใหม่ หรือการทะลุขีดจำกัดของตัวเอง ไม่มีอะไรมาฉุดรั้งเป้าหมายของฉันได้” และ ณ ใจกลางของห้องจัดแสดงชั้นสอง เธอจึงได้ตั้งศาลาลอยน้ำขึ้น ภายในมีชื่อว่า ‘Mystical Forest’ โดยนำเสนอผลงานมาสเตอร์พีซ 20 ชิ้นอันเป็นเอกลักษณ์ของเธอไว้

การสำรวจอันไม่มีที่สิ้นสุด

ซินดี้ เชา สืบทอดความเป็นศิลปินมาเป็นรุ่นที่สามของตระกูลแล้ว ด้วยคุณปู่ผู้เป็นสถาปนิก และคุณพ่อที่เป็นประติมากร ทำให้ภายในงาน ‘The Endless Realm’ นี้เราจึงได้เห็นเธอนำศิลปะจากตระกูลสอดแทรกมาด้วย ไม่ว่าจะเป็น การนำเสนอศิลปะจัดวางแบบสามมิติ และการใส่มุมมองแบบงานประติมากรรมเข้ามา

บนชั้นที่สาม ชั้นสุดท้ายของอาคาร เราจะได้พบกับ ‘Endless Exploration’ ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของแบรนด์ CINDY CHAO The Art Jewel ตั้งแต่ก่อตั้ง รวมไปถึงเบื้องหลังสุดเอ็กซ์คลูซีฟของกระบวนการรังสรรค์อัญมณีสุดพิถีพิถัน การเดินทางครั้งนี้ได้จบลงที่ห้องจัดแสดงผลงานจากแทบทุกคอลเลกชั่นของ ซินดี้ เชา

โดยเราจะพาไปชมผลงานชิ้นไฮไลต์ 2 ชิ้นด้วยกัน ได้แก่ ‘เข็มกลัด Blue Dawn Feather’ เปิดตัวเมื่อปี 2020 ที่ ซินดี้ เชา บรรจงเจียระไนเพชรสีขาวทรงสามเหลี่ยมตัดมุม น้ำหนัก 20.49 กะรัต ขณะที่ตัวขนนกประดิษฐ์ขึ้นจากแซฟไฟร์หลากหลายรูปทรงและกะรัต

ขณะที่อีกชิ้นคือ ‘เข็มกลัด Dragonfly’ โดดเด่นด้วยสีเขียวสดใสของมรกตที่ปลายปีก ทั้งยังไล่เฉดโทนด้วยอัญมณีจากขอบปีกสีน้ำเงินสู่สีเขียวที่ใจกลาง จึงไม่แปลกใจเลยที่ทั้ง 2 ชิ้นนี้จะเป็นผลงานไฮไลต์ของงานจัดแสดงครั้งนี้

Never miss an update

Subscribe to our newsletter to get the latest updates.

No Thanks
You’re all set

Thank you for your subscription.