เส้นทางที่ถูกลิขิตมาแล้วของคุณหมอเพชร Doctor Diamond ต้นตำรับ “เพชรสายมู” เจ้าแรกของโลก
สามปีที่ผ่านมา คุณสา-ปุณรัศมิ์ ปฐมอัคราโรจน์ ทำให้สังคมรอบๆ ตัวเธอประหลาดใจกับการเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นการวางมือจากธุรกิจที่บ้านหลังดูแลมากว่า 2 ทศวรรษ หรือการเปิด GUARDIAN DIAMOND เพชรสายมู เจ้าแรกของโลก
“เพื่อนๆ แตกตื่นที่อยู่ๆ เรามาสายมู” คุณสาเล่ายิ้มๆ “สาบอกเลยว่าเราไม่ได้เพิ่งจะมู เรามูมาตั้งแต่เด็กแล้ว เราเกิดและโตมากับสิ่งนี้ เพื่อนคุณพ่อ เป็นเจ้าของตำหนักร่างทรง อาม่า (คุณย่าบุนนาค เอกบัณฑิต) ก็มีเพื่อนเป็นร่างทรง เราโตมากับเรื่องพวกนี้ เราเข้าออกตำหนักร่างทรงมาตั้งแต่เด็กจนเห็นเป็นเรื่องปกติ แต่เราจะไม่พูดนอกบ้าน เลยไม่มีใครรู้ พอเราออกตัว บอกเราสัมผัสพลังเพชรได้ เพื่อนๆ ถึงถามว่ามาได้ไง”
เพื่อนคุณพ่อที่เธอกล่าวถึง คืออาจารย์สุชาติ รัตนสุข ที่เธอเรียกติดปากว่า “ลุงชาติ” ผู้ก่อตั้งเทวาลัยพระพิฆเณศห้วยขวางอันเลื่องชื่อ “คุณพ่อกับลุงชาติเรียนมัธยมที่โรงเรียนปานะพันธุ์มาด้วยกัน จนพอลุงชาติเริ่มมาสายนี้ เพื่อนฝูงที่มีก็มาฝากตัวกลายเป็นลูกศิษย์ จนคุณพ่อบอกว่า เอ็งมีแต่ลูกศิษย์ จนไม่เหลือเพื่อนแล้ว เหลือข้าไว้เป็นเพื่อนสักคน”

จับวิญญาณสัมภเวสีใส่ขวด
ครอบครัวคุณสา มีประสบการณ์กับสิ่งลี้ลับที่ไม่มีคำอธิบายได้มาตลอด “ตอนนั้นสาน่าจะ 10 กว่าขวบ อาม่าไปเที่ยวเมืองจีน กลับมานอนแอดมิดในโรงพยาบาลเป็นเดือน นอนนิ่งๆ อยู่อย่างนั้น จำได้ว่า คุณหมอหาสาเหตุไม่เจอ คุณพ่อเชิญลุงชาติมาช่วยดู ลุงชาติบอกว่าแม่เอ็งโดนผีเกาะกลับมาจากเมืองจีน เดี๋ยวเอาออกให้ แต่เอาออกวันเดียวไม่ได้นะ เดี๋ยวช็อค”
“วันแรกลุงชาติเอาไม้มาเขี่ยๆ จากที่นอนพังพาบมาเป็นเดือน เขี่ยวันแรกวันเดียว อาม่ายกหัวขึ้นได้เลย สรุปว่าลุงชาติเอาออกอยู่ประมาณ 7 วันกว่าจะหมดคือเขี่ยออกไปประมาณร้อยกว่าตัว”
“ตอนที่เกิดเหตุการณ์นี้ อาม่าวางมือจากธุรกิจให้ลูกๆ ดูแลแล้ว และเริ่มปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิจริงจัง ถึงขนาดอาแปะซื้อบ้านไว้ให้แล้วเชิญแม่ชีมาสอนที่บ้าน ท่านน่าจะเริ่มทำโรงเจแล้วด้วย ส่วนการทำบุญปล่อยปลา เย็บจีวร ปิดทองพระ พวกนี้ทำกันประจำ อย่างเวลาจะปิดทองพระ ทำกันแบบน้องๆ โรงงานอุตสาหกรรมเลยนะ โต๊ะในบ้านจะตั้งพระเป็นตับๆ ช่วยกันทาองค์พระให้เป็นสีเหลืองหรือสีแดงก่อนจะปิดทอง อาม่าเป็นคนบุญเยอะ ลุงชาติก็อธิบายว่าบุญคือความสว่าง เวลาเราไปในที่มีสัมภเวสีอยู่ เขาอยากมาขอส่วนบุญ เขาก็เกาะอาม่ากลับมาจากเมืองจีน”
เริ่มต้นทำร้านเพชร
อาม่าของคุณสาเป็นผู้หญิงทำงานคนหนึ่ง ครอบครัวท่านอยู่ในสะพานหันมีธุรกิจตัดเย็บชุดชั้นในสำเร็จรูป ยี่ห้อ ‘โอเค’ ซึ่งเป็นยกทรงโหลเจ้าแรกของเมืองไทย ก่อนคุณพ่อของคุณสาตัดสินใจพาครอบครัวย้ายออกจากสำเพ็งตั้งแต่คุณสายังไม่ถึง 10 ขวบ ด้วยเหตุผลว่า “ไม่อยากให้ลูกโตอยู่ที่นั่น” และธุรกิจยกทรงสำเร็จรูปได้ปิดตัวไป หลังจากนั้นในปี 2536 ครอบครัวคุณสาได้มาเปิดธุรกิจเครื่องประดับเพชร ชื่อ Proud Gems
“คุณตาของสาเคยทำโรงงานทอง เราเดินเข้าไปในบ้านท่าน มีช่างนั่งอยู่สองฝั่ง มีเครื่องรีดทองอยู่ตรงกลาง อารมณ์โบราณๆ อย่างนั้นเลย แต่เพื่อนบ้านคุณตาเป็นเจ้าของร้านเพชร คุณแม่ไปช่วยเขาขายเพชร จนพูดได้ว่าคุณแม่โตมาจากในร้านเพชร และคุณพ่อมาจีบจากตอนทำร้านเพชรที่โรงแรมโอเรียลเต็ล ลูกค้าเขาสมัยนั้น มีระดับนักบอลในตำนาน อย่าง เปเล่ ที่คุณแม่ยังมีรูปถ่ายคู่อยู่เลย”
“ไอเดียเปิดร้านเพชรมาจากคุณแม่ ร้านเพชรร้านแรกของที่บ้านตั้งอยู่ที่ The Promenade โรงแรมฮิลตัน ปาร์ค นายเลิศ (ปัจจุบันร้านอยู่ที่สยามดิสคัพเวอรี่) สมัยนั้น เขาขายเพชรกัน เม็ดละ 10-20 กะรัตยังกะขายขนม ซึ่งสาเข้ามาเริ่มช่วยแม่ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย”
คุณสาช่วยครอบครัวดูแลร้านเพชรตั้งแต่สมัยเธอเรียนปี 1 ที่ ABAC เรียนจบก็ต่อวุฒิ Graduate Gemologist ของสถาบัน GIA (Gemological Institute of America) เป็นนักวิเคราะห์อัญมณีเต็มตัว เพื่อเข้ามาดูแลรับผิดชอบธุรกิจครอบครัว ทำตั้งแต่การขายหน้าร้าน ดูแลบัญชี คัดเพชร ให้คำปรึกษาลูกค้า ตลอดเวลาที่ทำร้านเพชร หนึ่งในเรื่องที่ลูกค้านำมาปรึกษาบ่อยที่สุดคือ “ช่วยดูให้หน่อยเม็ดนี้แท้ไหม”


จุดเปลี่ยนที่เธอไม่เคยรู้.. ว่าจะพาชีวิตมาถึงจุดนี้
คุณสาเห็นว่าตรงนี้เป็นปัญหาของคนที่อยากซื้อเพชร จึงอยากช่วยคนด้วยการให้ความรู้เรื่องเพชรเพื่อไม่ให้คนไทยโดนหลอก คุณสาเปิดเพจชื่อ ‘Doctor Diamond’ ทาง Facebook เพื่อให้ความรู้เรื่องเพชรมีคนติดตามมากกว่า 150,000 คน เขียนหนังสือขายดีเกี่ยวกับการเลือกเพชรหลายเล่ม แล้วอยู่มาวันหนึ่งหลังจากดูแลร้านเพชรของทางบ้านมา 20 กว่าปี บางอย่างที่อยู่ข้างในของเธอก็บอกว่า “หมดเวลาแล้ว”
“มันเหมือนทุกอย่างโดนกดปุ่มจบ วันที่สาตัดสินจะบอกทางบ้านว่า จะไม่ช่วยดูแลกิจการแล้วนะ สายืนอยู่ในห้องน้ำที่คอนโดของตัวเอง มันอาจจะฟังดูโอเว่อร์นะ แต่วินาทีที่ตัดสินใจ สามั่นใจว่าได้ยินเสียงเทวดาสาธุทั้งบ้าน สาธุดังมาก แต่ไม่ช่วยทางบ้านแล้วจะทำอะไร วันนั้นไม่รู้เลยนะ และที่ตัดสินใจออกมาก็ยังไม่มีแผนรองรับ ยังไม่มีรายได้สักบาท ตัดสินใจออกมาเลย ใจเด็ดมากตอนนั้น”
คุณสาโอนการดูแลธุรกิจร้านเพชรให้น้องสาวดูแลแทน และเมื่อตัดสินใจใช้หัวใจ สมาธิ และปัญญานำชีวิต คุณสาใช้เวลาไม่นานก็มีบางอย่างดลบันดาลให้ค้นพบเส้นทางใหม่ของตนเอง เส้นทางที่เหมือนคุณสาเกิดมาเพื่อทำหน้าที่ตรงนี้และต้องคุณสาเท่านั้น เส้นทางของการช่วยเหลือ, ให้ความหวัง และมอบความสุขให้ผู้คนผ่านการเคลียร์พลังงานด้วย เพชรสายมู ‘GUARDIAN DIAMOND’ หรือเพชรผู้พิทักษ์ ที่ตอนนี้มีออฟฟิศสำหรับเปิดให้ลูกค้าเข้ามานัดคุย นั่นก็คือ Bwitching Diamonds House อยู่ชั้น 9 ที่เกษร ทาวเวอร์
ฟังเผินๆ ธุรกิจใหม่ของเธอ ก็ไม่เห็นจะแตกต่างจากธุรกิจของครอบครัว แต่ความจริงเหมือนอยู่คนละโลก คุณสาไม่ได้ขายเพชรเจียระไนที่ใช้เป็นเครื่องประดับ แต่คุณสาขายเพชรสายมูที่ผ่านการคัดแล้วว่ามีระดับพลังงานเหมาะสมกับลูกค้าแต่ละคน โดยใช้วิชาที่ได้รับถ่ายทอดจากครูบาอาจารย์ช่วยแมตช์ความเหมาะสมของเพชรกับพลังงานของลูกค้าผ่านการพูดคุยในขณะทำ Session
“ทุกสิ่งบนโลกมีพลังงานและเป็นพลังงาน” คุณสาอธิบาย “เพชรหรืออัญมณีมีพลังงานของเขา มากน้อยต่างกัน เพชรที่ไม่เจียระไน จะมีพลังมากกว่าเพชรที่เจียระไนแล้ว ฉะนั้นเพชรที่สาเลือกมาเป็น Guardian Diamond (เพชรผู้พิทักษ์) ทุกเม็ดจะเป็นเพชรดิบ แต่ไม่ใช่เพชรดิบทุกเม็ดจะเป็น Guardian Diamond บางเม็ดที่ระดับพลังงานเค้าไม่ถึง ก็ไม่ใช่ รูปทรงเพชรไม่ใช่ก็ไม่ได้ จะใช้อยู่ 2 ทรงเท่านั้น คือทรง Octahedron (คล้ายปิรามิด 2 ชิ้นประกบฐานเข้าหากัน) และ Dodecahedron (คล้ายลูกเต๋าที่มี 24 หน้า) อีกอย่าง เนื้อเพชรมีตำหนิเยอะๆ ก็ใช้ไม่ได้ เพราะตำหนิจะไปขัดขวางการไหลของพลังงานที่เขามี หรือถ้ามีรอยแตก รอยร้าว รอยบิ่น ก็จะทำให้พลังงานรั่วหลุดออก เราต้องคัดทิ้ง”

“คนที่มาสายนี้ เขาจะรู้ว่าทุกคนมีวาระของตนเอง ทุกอย่างถูกกำหนดมาแล้ว และมันน่าทึ่งที่ทุกอย่างมักจะลงตัวแบบแปลกๆ”
สา-ปุณรัศมิ์ ปฐมอัคราโรจน์
“ตามหลักการรักษาสุขภาพด้วยพลังจักรวาลนั้น มนุษย์เราจะมีจักระอยู่ 7 จุดที่คอยควบคุมการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย จักระแต่ละจุด จะหมุนอยู่ตลอดเวลา และเมื่อไรก็ตามที่แรงหมุนอ่อนกำลังลง นั่นหมายความว่า เรากำลังป่วย”
“ในการรักษายังมีการใช้พลอยชุดหนึ่งที่มีสีตรงกับจักระมาช่วยเสริมพลัง ร่างกายเรามี 7 จักระ จักระแต่ละจุด จะหมุนเปล่งแสงออกมาต่างกัน 7 จุด ก็ 7 สี สมมุติต้องการเสริมพลังจักระที่หัวใจ ซึ่งปกติหมุนเปล่งแสงสีเขียว ก็จะให้ผู้ถูกรักษากำพลอยสีเขียวขณะรักษา และพลอยที่ใช้ทั้งเซ็ต จะเป็นพลอยที่ไม่เจียระไน เพราะจะมีพลังมากกว่าพลอยที่เจียระไนแล้ว” คุณสาอธิบายถึงพื้นฐานความเข้าใจเรื่องพลังงานที่นำมาสู่ Guardian Diamond
แรกเริ่มสัมผัสและรับรู้พลังที่มองไม่เห็น
จุดที่นำทางเธอมาสู่ธุรกิจสายมูเต็มตัวนั้น เริ่มจากลูกค้าที่สนิทกันไปเที่ยวต่างประเทศแล้วซื้อเพชรดิบกลับมาจากเมืองนอก และขอให้เธอนำไปทำตัวเรือนให้
“เป็นที่รู้กันดีในวงการเพชรว่า เพชรดิบเป็นอะไรที่หายาก ยิ่งเพชรดิบพลังงานดีๆ ยิ่งหายากกว่า ดังนั้นทุกครั้งที่ได้เจอเพชรดิบ สาจะตื่นเต้นมาก และพอเรากำเพชรดิบเม็ดนั้น นั่นคือโมเมนต์ที่เปลี่ยนทุกอย่าง เราเอามากำ เพราะเราอยากรู้พลังของเพชรเม็ดนั้นเป็นอย่างไร”
“เพชรดิบเม็ดนี้ มันสุดมากๆ เป็นพลังที่เหนือกว่าทุกอย่างที่เคยผ่านมือเรา มันเป็นพลังที่เย็น เบา เป็นพลังที่แรง แต่ก็สงบ เราตื่นเต้นไปหมด เราอยากได้ เราต้องมีเพชรดิบเป็นของตัวเองแล้ว”
“พลังงานที่ดีจริงๆ หายาก กว่าสาจะรู้ถึงความหมายของคำว่า สัปปายะ สาต้องไปถึงสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า หรือไม่ก็ต้องดั้นด้นไปกราบพระอริยะสงฆ์ เดินทางไปกราบพระบรมสารีริกธาตุ กว่าจะได้เจอพลังงานดีๆ ที่สามารถช่วยชำระล้างและปลดเปลื้องพลังลบที่หมักหมกสะสมจากการใช้ชีวิตออกไปจากตัวเรา ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สาสัมผัสพลังงานนี้ได้ในเพชรดิบที่ถูกต้องตามตำรา ดังนั้น สาต้องมีเพชรดิบของตัวเองให้ได้ ตอนนั้นคิดแค่นั้น”
คุณสาเรียกเพชรดิบที่มีพลังงานดีๆ ว่า Guardian Diamond เพชรดิบเม็ดแรกที่เธอเลือกมาทำแหวนให้กับตนเองมีสีชมพูอมม่วง (เธอใส่นิ้วก้อย) และอีกปีต่อมา เธอเลือกเพชรดิบอีกเม็ดสีขาวใสมาใส่เป็นแหวนนิ้วนาง
“เชื่อไหม สาทำงานนักวิเคราะห์อัญมณี 20 ปีถึงมีเพชรดิบเป็นของตัวเองเม็ดแรกได้ ดังนั้นถ้าบอกว่าไม่เคยเห็นก็มันไม่ใช่หากันง่ายๆ และมันไม่ใช่เม็ดไหนก็ได้ เพราะเราใส่เพื่อรับเอาพลังงาน เพชรเม็ดที่ 2 ที่สาเลือกให้กับตัวเอง พลังจะดีกว่า เนื้อเค้าใสกว่า ตำหนิน้อยกว่า การไหลของพลังเค้าก็จะดีกว่าเม็ดแรก และพอเห็นเค้าแวบแรกรู้สึกเหมือนเพชรกวักมือเรียก”

พอได้สองเม็ดนี้ไม่นาน ธุรกิจเพชรสายมู Guardian Diamond ก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อคนใกล้ชิดเธอลองใช้เพชรดิบตามเธอ และรู้สึกว่ามีสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต เธอนำเพชรดิบไปแนะนำในเพจ ‘Doctor Diamond’ ก็มีเสียงตอบรับในทำนองเดียวกัน
เธอกลายเป็น ‘คุณหมอเพชร’ ต้นตำรับ เพชรสายมู ที่คอยแมตช์พลังของเพชรดิบให้เหมาะสมกับลูกค้าที่เข้ามาปรึกษา และลูกค้าหลายคนทักว่า มีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นหลังได้เพชรดิบไป ซึ่งคุณสาเองก็เชื่อว่าจะต้องเป็นเช่นนั้น
“ทุกอย่างเป็นเรื่องของพลังงาน วิธีการใช้ชีวิตของเรา ทุกการตัดสินใจของเรา หรือแม้แต่เราจะเลือกทานอะไร ล้วนมาจากระดับพลังงานของเราของตัวเราในช่วงนั้นๆ เมื่อคลื่นพลังงานในตัวเราเกิดการเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างในชีวิตเราก็จะเปลี่ยนไปเช่นกัน
“Guardian Diamond มีพลังที่เย็น เบา แต่ทรงพลัง เค้าเป็นพลังงานดีๆ ที่จะเข้ามาช่วยเคลียร์พลังลบที่สะสมอยู่ออกไปจากผู้ครอบครอง พอเรากำจัดคลื่นรบกวนออกไป สิ่งดีๆ ที่รอเราอยู่ข้างหน้า จะกระโจนเข้ามาหาเราเอง เชื่อเถอะค่ะว่าสิ่งดีๆ รอเราอยู่ตั้งนานแล้ว แต่เพราะตัวเรามีคลื่นรบกวนอยู่ โอกาสดีๆ ก็เลยเข้ามาไม่ได้”
“บางคนมีไอเดียดีๆ แต่มีพลังงานลบเข้ามาบดบังเหมือนหมอกดำๆ คลุมอยู่ ถึงมองไม่เห็น มีโอกาสก็มองไม่เห็นโอกาส หลายคนมองหาไอเท็มดูดทรัพย์ ไอเท็มดูดเรื่องนั้นเรื่องนี้ แต่ถ้าคุณยังมีคลื่นรบกวนและข้างในยังเต็มไปด้วยพลังลบ ดูดไม่เข้าหรอกค่ะ กลับกัน ถ้าเคลียร์คลื่นรบกวนออก เคลียร์ม่านหมอกออก คราวนี้ไม่ต้องไปพยายามดูดเลย สิ่งดีๆ จะกระโดดเข้ามาเองแบบตั้งตัวไม่ทัน”
คุณสาทิ้งท้ายพร้อมรอยยิ้มสดใสว่า “สาอยากเชิญให้มาลองสัมผัสพลังงานดีๆด้วยตัวเองที่ Bwitching Diamond House เมื่อถึงเวลาค่ะ”