ที่สุดของเพชรแฟนซีอันเลอค่า ‘ปัน-รมย์มนันท์ ติรณศักดิ์กุล’ ต่อยอดร้านเพชรสู่ Gemholic Vintage
“สไตล์ของ Gemholic คือมีการออกแบบตัวเรือนที่มีเอกลักษณ์ผสมผสานงานหัตศิลป์ชั้นสูง เพราะอยากให้เครื่องประดับเป็นเหมือนงานศิลปะเลอค่าชิ้นหนึ่งที่สวมใส่ได้”
ในแวดวงคนรักอัญมณี โดยเฉพาะเพชรแฟนซี หรือเพชรสี ร้านอันดับหนึ่งในใจย่อมต้องยกให้ Gemholic โดย ‘ปัน-รมย์มนันท์ ติรณศักดิ์กุล’ ซึ่งถือเป็นผู้บุกเบิกตลาดเพชรแฟนซีเจ้าแรกในเมืองไทยเมื่อราว 4 ปีที่ผ่านมา และเป็นร้านที่จำหน่ายเฉพาะเพชรสีล้วนๆ เพียงหนึ่งเดียวในเมืองไทย

ผู้บุกเบิกตลาดเพชรแฟนซีในไทย
ด้วยอุปนิสัยที่ไม่ชอบเดินตามความสำเร็จของใคร บวกกับมองเห็นช่องว่างทางการตลาดทางด้านเพชรแฟนซีที่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักนักในเมืองไทย จึงจุดประกายให้คุณปันเริ่มต้นเปิดตัวร้าน Gemholic “การที่เราเปิดร้านเพชรสียอมรับว่ามันมีความเสี่ยง เพราะเรากำลังเริ่มทำในสิ่งใหม่ที่คนไม่รู้จักคุ้นเคย แต่ด้วยความที่เป็นคนไม่ชอบตามใคร ไม่ชอบทำอะไรตามกระแส แต่ชอบทำสิ่งสวนกระแสให้กลายเป็นกระแส ปันอยากเป็นผู้นำเป็นคนแรก เป็นผู้สร้างกระแสให้คนอื่นตามมากกว่า”
แนวคิดหนึ่งที่คุณปันให้ความสำคัญนับตั้งแต่ก้าวแรกของการเปิดร้าน Gemholic ก็คือการส่งมอบความรู้ความเข้าใจในเรื่องราวของเพชรแฟนซีแก่ผู้ที่สนใจในวงกว้าง ผ่านเนื้อหาบทความอันหลากหลายที่นำเสนอทางโลกออนไลน์
“ปันทำบทความออนไลน์ให้ความรู้อย่างเจาะลึก เช่น เพชรแฟนซีมีกี่เฉด เพชรแต่ละสีเกิดจากอะไร เรทราคาสูงต่ำขึ้นอยู่กับระดับความเข้มอ่อน ซึ่งเรื่องพวกนี้เป็นรายละเอียดที่หากคนไม่มีความรู้เรื่องเพชรสีก็จะมองไม่ออก ร้านเราให้ความสำคัญกับการส่งต่อข้อมูลความรู้แก่ลูกค้า เพราะเพชรสีที่ร้านเราจำหน่ายไม่ค่อยเป็นที่นิยมในบ้านเราหรือมีข้อมูลเชิงลึกมาก่อน เราอยากเน้นขายแบบให้ความรู้ลูกค้าควบคู่กันไปด้วย อยากให้ลูกค้ามีความรู้ความเข้าใจแล้วถึงค่อยซื้อ พอเขามีความรู้มีข้อมูลเขาก็ซื้อแบบคนเล่นเป็น จะได้มองเห็นคุณค่าของมันอย่างแท้จริง”






เพชรแฟนซี เลอค่ากว่าเพชรขาว
แน่นอนกว่าเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของเพชรแฟนซีก็คือสีสันแสนสวยสดใส ซึ่งคุณปันเล่าว่ามีแทบจะทุกเฉดสี นับตั้งแต่สีน้ำตาล เทา ดำ เหลือง เขียว ส้ม ชมพู ม่วง ฟ้า และแดง ซึ่งแต่ละสีก็จะมีการแยกระดับไล่ตามความเข้มอ่อน พร้อมตั้งชื่อเรียกตามเฉดสีทั้งหมด 8 ระดับ เช่น เพชรสีชมพูก็มีตั้งแต่ เพชรสีชมพูก็มีต้ังแต่ Faint Pink , Very Light Pink , Light Pink , Fancy Light Pink , Fancy Pink , Fancy Intense Pink , Fancy Vivid Pink และ Fancy Deep Pink โดยเพชรสีที่ยิ่งเข้มก็จะยิ่งมีมูลค่าสูง ส่วนสุดยอดในหมู่มวลเพชรแฟนซีที่คนรักเพชรสีทั่วโลกให้การยอมรับ ก็คือ เพชรสีแดง หรือ Fancy Red ถือเป็นสีที่มีสนนราคาแพงที่สุดและหายากที่สุดในโลก
“คนที่สะสมอัญมณีจะเป็นอันรู้กันว่า เพชรสีได้รับความนิยมมากในต่างประเทศ เพราะเพชรสีหายากกว่าเพชรขาว และมีมูลค่ามากกว่า อย่างการประมูลเพชรต่างๆในต่างประเทศส่วนใหญ่ล้วนจะเป็นเพชรสีทั้งหมดทั้งสิ้น อย่างเพชรชมพูหรือเพชรฟ้ามีมูลค่าสูงหลักหลายสิบล้านในต่างประเทศ ยกตัวอย่าง Fancy Vivid Pink หนึ่งกะรัตราคาสูงถึง 25 ล้าน”
อย่างไรก็ตาม อาจจะยังมีอีกหลายคนที่แยกแยะระหว่างเพชรสีกับพลอยสีไม่ออก คุณปันบอกว่าวิธีสังเกตุความแตกต่างของอัญมณีเลอค่าทั้งสองประเภทง่ายๆ ก็คือ “เพชรสีจะมีความโปร่งแสงมากกว่าพลอย จะมีประกายระยิบระยับเล่นไฟมากกว่า”




การเจียระไนเพชรก็เหมือนการรังสรรค์งานศิลป์
มาถึงวันนี้ ร้าน Gemholic เดินทางเข้าสู่ขวบปีที่สี่อย่างงดงาม เรียกได้ว่าครองอันดับหนึ่งในตลาดเพชรแฟนซีไทยอย่างยากที่ใครจะเทียบทัน ซึ่งนอกจากความมุ่งมั่นและจริงใจต่อลูกค้าแล้ว งานด้านออกแบบของทางร้านยังผสมผสานไปด้วยอัตลักษณ์ความงดงามอันโดดเด่นแตกต่างด้วย
“จุดเด่นอย่างหนึ่งของเพชรสีคือ เวลาทำตัวเรือนออกมามันจะช่วยให้ดูมีเอกลักษณ์โดดเด่นมากกว่า ให้สีสันความมีชีวิตชีวามากกว่า เทคนิคการทำตัวเรือนมีทั้งความต่างและเหมือนกับการทำตัวเรือนเพชรขาว ยกตัวอย่างหากลูกค้าอยากได้เพชรชมพูแต่มีงบน้อย เราก็เลือกใช้เพชรชมพู Light Pink ที่มีสีชมพูอ่อนจางหน่อย แล้วใช้เทคนิคขึ้นตัวเรือนโดยด้านล่างทำเป็นกระเปาะใต้ฐานเพชร แล้วแต้มสีชมพูลงไปที่กระเปาะ ก่อนจะฝังเพชร เพื่อให้มันสะท้อนสีขึ้นมากระทบตัวเพชร สีชมพูของเพชรก็จะดูเด่นเข้มขึ้น ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่มีการใช้กับการขึ้นตัวเรือนในเพชรขาว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มีเทคนิคอันหลากหลาย ขึ้นอยู่กับประเภทของเพชรสี และความต้องการของผู้สวมใส่”
“สไตล์ของ Gemholic คือมีการออกแบบตัวเรือนที่ไม่เหมือนร้านอื่น มีความยูนีค มีเอกลักษณ์โดดเด่น ผสมผสานไปกับเทคนิคงานหัตศิลป์ชั้นสูง เพราะเราอยากให้เครื่องประดับเป็นเหมือนงานศิลปะเลอค่าชิ้นหนึ่งที่สามารถสวมใส่ได้”


Gemholic Vintage ก้าวใหม่ที่เปล่งประกาย
เส้นทางความสำเร็จของ Gemholic ได้รับการสานต่อขยับขยายไปสู่อีกระดับ ด้วยการเปิดตัวไลน์ลูกในชื่อ Gemholic Vintage ภายใต้มุมมองอันกว้างไกลของคุณปันที่มองเห็นอีกหนึ่งช่องว่างในตลาดอัญมณี
“Gemholic Vintage เน้นขายเพชรวินเทจ รวมถึงพวกเพชร Opaque หรือเพชร Rustic และเพชรดิบ ซึ่งเพชร Opaque หรือเพชร Rustic เป็นเพชรที่ผ่านการเจียระไนแล้วเหมือนเพชรปกติทั่วไป แต่หน้าตาของมันดูทึบซึ่งเกิดจาก Clarity ของมันที่ต่ำกว่ามาตรฐาน ทำให้ได้ลุคที่ดูดิบๆเท่ๆ ส่วนเพชรดิบคือเพชรที่ยังไม่ผ่านการเจียระไน เป็นก้อนเพชรที่ขุดมาเหมือนก้อนหินสี ซึ่งเพชรเหล่านี้เวลานำมาขึ้นตัวเรือนจะดูวินเทจ และมีเสน่ห์มาก”
“เพชร Salt & Pepper จัดอยู่ในกลุ่มเพชร Opaque หรือ เพชร Rustic เหตุผลที่เรียกชื่อนี้เพราะมีตำหนิสีดำและขาวผสมกันอยู่ในเนื้อเพชร ทำให้สีของเพชรดูออก Smoky หน่อยๆ และแต่ละเม็ดจะมีหน้าตาที่ไม่เหมือนกันเลย ก็เลยกลายเป็นเสน่ห์เฉพาะตัว ที่ได้รับความนิยมมากในหมู่ชาวตะวันตก จะชอบเลือกเพชร Salt & Pepper มาทำเป็นแหวนหมั้น เพราะตำหนิของมันมีความหมายถึง ‘Loving someone no matter what their flaws maybe or seeing past the flaws to the beauty’ คือในตำหนิมันแฝงความสวยงาม เปรียบเสมือนคู่รักที่ต่างยอมรับในความบกพร่องของกันและกัน เพราะชีวิตคนเรามันไม่มีใครสมบูรณ์แบบ”
ซึ่งในความไม่สมบูรณ์แบบนี่เอง ที่เปล่งประกายแห่งโอกาสในสายตาของ ‘ปัน-รมย์มนันท์ ติรณศักดิ์กุล’ เธอกล่าวปิดท้ายก่อนจากกันในวันนี้ว่า “คนทั่วไปอาจมองไม่เห็นโอกาสหรือมองข้าม แต่ปันมองเห็นแรงบันดาลใจตรงจุดนี้ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่ชอบความเปล่งประกายเป็นคุณหญิงคุณนาย มีคนยุคใหม่ที่ออกแนวติสต์ๆ ชอบความอาร์ต ชอบงานแอนทีคแตกต่าง Gemholic Vintage ตอบโจทย์คนกลุ่มนี้ ซึ่งเป็นกลุ่มที่โดนมองข้าม ที่ต้องการเอกลักษณ์โดดเด่นแตกต่าง การที่เราทำแบบนี้มันคือความกล้า ข้อดีคือเราเป็นเจ้าแรก เปิดโอกาสให้เราได้เปิดตัวในฐานะผู้นำ”


สามารถติดต่อร้าน Gemholic และ Gemholic Vintage ได้ที่
- สาขา เทอร์มินอล 21 อโศก
- Facebook : Gemholic Fancy Diamond & Jewelry
- Instagram : Gemholic / Gemholic Vintage
- โทร 086-888-8829
ขอบคุณสถานที่ถ่ายทำ Le Khwam Luck Cafe Bar and Restaurant