การเป็นธิดาเพียงคนเดียวของ ม.ร.ว.ยงสวาสดิ์ และ ท่านผู้หญิงวิยะฎา กฤดากร ณ อยุธยา ทำให้ ‘ม.ล.ปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี’ หรือ ‘คุณหญิงต้น’ จึงเป็นเหตุให้ตามติดคุณพ่อคุณแม่ไปไหนมาไหนเสมอตั้งแต่ยังเล็ก ซึ่งสถานที่ที่ไปเป็นประจำนั่นคือ ร้านเพชร ร้านผ้า และเนื่องจากคุณแม่ชอบเย็บผ้าใส่เองโดยมีคุณพ่อเป็นที่ปรึกษาเครื่องความสวยความงามประจำตัว
และด้วยความที่สืบเชื้อสายจากราชนิกูลชั้นสูงทำให้พบว่าพระปรีชาสามารถทางศิลปะได้ถ่ายทอดทางสายพระโลหิตสู่ทายาทรุ่นถัดๆมาในรุ่นพระโอรส ม.จ.เสริมสวาสดิ์ ท่านพ่อของ ม.ร.ว.ยงสวาสดิ์ แม้จะทรงสำเร็จการศึกษาด้านวิศวกรรมศาสตร์ ก็ยังโปรดทรงงานศิลปะและการออกแบบเป็นงานอดิเรก ส่วนพี่ชายของคุณชายยงสวาสดิ์ คือ ม.ร.ว.พูนสวาท เป็นศิลปินมัณฑนากร และนักออกแบบตกแต่งภายในมืออาชีพ ส่วนคุณพ่อของคุณหญิงต้น หรือคุณชายยงสวาสดิ์ สนใจศึกษาศิลปะและการออกแบบ ด้วยตนเอง
ภาพที่คุณหญิงต้นเห็นเจนตามาตั้งแต่วัยเยาว์ คือ การร่างแบบเครื่องประดับที่คุณพ่อออกแบบให้กับคุณย่าและคุณแม่ บางครั้งก็นั่งออกแบบในร้านเพชรที่คุณย่ากับคุณพ่อมักไปเป็นประจำ ด้านท่านผู้หญิงวิยะฎา กฤดากร ณ อยุธยา นับเป็นสุภาพสตรีที่งดงามทั้งกิริยามารยาทและการแต่งกายที่ถูกกาลเทศะและถือเป็นต้นแบบที่อยู่ในความทรงจำของคุณหญิงต้นมาตลอดเวลา
นาฬิกา Omega สไตล์อาร์ต เดโค ฝังเพชร ทั้งตัวเรือนและสาย มีทั้งเพชรกลมและเหลี่ยม
นอกจากคุณพ่อจะเป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับให้กับคุณย่าและคุณแม่แล้ว ม.ร.ว.ยงสวาสดิ์ยัง ออกแบบเครื่องประดับให้คุณหญิงต้นด้วยโดยดูตามความเหมาะสมของวัยและเครื่องประดับชิ้นที่ยังใส่ติดตัวจนถึงทุกวันนี้ คือ กำไลชาวเขาทำด้วยเงิน 2 อัน ส่วนตัวแล้วเป็นคนชอบแหวนกับต่างหูเพราะว่า ชอบตัดผมสั้น และมีนิสัยกระโดกกระเดก การที่ใส่แหวนกับต่างหูทำให้ดูเป็นผู้หญิงมากขึ้น และนาฬิกาก็เป็นอีกอย่างหนึ่งในความชอบของคุณหญิงต้น แต่มักเลือกใส่นาฬิกาผู้ชายเป็นส่วนใหญ่ อย่างพวกนาฬิกาเพชรโอเมก้าสามารถใส่เป็นสร้อยเพชรได้เลย เมื่อกาลเวลาผ่านไปพอเริ่มโตขึ้นก็มีบ้างที่จะร่วมแสดงความคิดเห็นด้วยว่าแบบนี้ดีไหม
เข็มขัดเส้นงามแปลกตานี้คุณหญิงต้นเลือกใส่ กับชุดไทยสีฟ้ากับผ้าซิ่นไหมยกดิ้นเงินที่มีอายุกว่า สิบปี แต่ยังคงความแวววาวของดิ้นเงินสวยงาม เข้ากับเครื่องประดับเพชร ทั้งต่างหูรูปดอกไม้ติดหู สร้อยข้อมือเพชรระยิบระยับ กับเข็มกลัดเพชร ลายเซ็นของคุณพ่อ ซึ่งคุณหญิงต้นสั่งทำหลังจาก ที่คุณพ่อเสียชีวิตแล้วเพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ
คุณหญิงต้นในเดรสสั้นสีน้ำเงินเข้มจาก DIOR ประดับด้วยเข็มกลัดแซพไฟร์สีน้ำเงินทำเป็นรูปดอกมอร์นิ่งกลอรี่ ที่คุณพ่อออกแบบ รวมทั้งต่างหู แซพไฟร์ห้อยระย้า
ปัจจุบันคุณหญิงต้นถือเป็นคนนึงที่แต่งตัวดี เหมาะสมในทุกสถานการณ์ สืบเนื่องมาจากตอนเด็กๆ คุณหญิงต้นจะเชื่อในสายตาของคุณพ่อคุณแม่เสมอ ทั้งหมดทั้งมวลมันเป็นการหล่อหลอมการใช้ชีวิตอย่างพิถีพิถัน และหากพูดถึงเครื่องประดับชิ้นที่ใส่เป็นประจำ คือ แหวนมรกตของแม่ที่สมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถพระราชทานมรกตให้ ซึ่งเป็นผลงานการออกแบบของคุณพ่ออีกด้วย เครื่องประดับทุกชิ้นมีคุณค่าทางจิตใจ มีเรื่องราวมากมาย ทำให้คุณหญิงต้นมักจะดูแลเก็บรักษาเป็นอย่างดี และ บางชิ้นก็ตกทอดไปยังลูกสาว
แหวนมรดกพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าพระนางเจ้าสิริกิติ์ ซึ่งเป็นวงที่คุณหญิงต้นใส่เป็นประจำ
เครื่องประดับที่ภาคภูมิใจ
‘เหรียญ Ceres และเหรียญสองพระองค์’ ที่คุณพ่อเป็นผู้ออกแบบถวายเมื่อครั้งที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้รับการถวายจากองค์การอาหาร และเกษตรแห่งสหประชาชาติ เมื่อ พ.ศ. 2522 เฉลิมพระเกียรติในฐานะที่ทรงเป็นสตรีดีเด่นทรงอุทิศพระองค์เพื่อพัฒนาสตรีและประชาชนในชนบท ทรงสนับสนุนพระบรมราโชบายในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการที่จะพระราชทานโอกาสให้บรรดาเกษตรกรเป็นเจ้าของที่ดินทำกินอย่างทั่วถึง
เหรียญ Ceres ที่ครอบครัวได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งออกแบบโดยคุณพ่อม.ร.ว.ยงสวาสดิ์
“สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีพระราชประสงค์ว่าอยากทำพระราชทานให้กับคนใกล้ชิด คุณแม่ก็รับพระราชเสาวนีย์มา และให้คุณพ่อเป็นผู้ออกแบบ ซึ่งทั้ง 4 เหรียญแรกพระราชทานให้กับท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค ม.ล.บัว กิติยากร ม.ล.แส กฤดากร และสำหรับพระองค์ท่าน ต่อมาก็ทำออกมาเรื่อยๆเพื่อพระราชทานให้กับแพทย์ ข้าราชบริพารที่ตามเสด็จ และผู้ที่ทำงานถวาย”
“ตอนสมโภชคุณพระเศวต ทางธนาคารแห่งประเทศไทยทำเหรียญพระรูปสองพระองค์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทอดพระเนตรแล้วรับสั่งว่าสวยดีน่าจะเอามาใช้ได้อีก พระองค์ท่านทรงให้หล่อเพิ่มแล้วรับสั่งให้พ่อออกแบบเป็นเข็มกลัด และคงจะทรงเห็นว่าพ่อทำงานออกแบบถวายมามากพอควร พอทางกระทรวงการคลังออกเหรียญฉลองบรมราชาภิเษก 50 ปี ซึ่งเป็นเหรียญทองทรงกลมพระรูปคู่มีพระมหามงกุฎก็เลยพระราชทานให้พ่อเป็นพิเศษ พ่อก็ออกแบบ มีพระมหามงกุฎล้อมด้วยหางช้างนี่ก็เป็นอีกเหรียญหนึ่งที่พระราชทานให้ข้าราชบริพารในวงกว้าง”
หลังจากที่ท่านผู้หญิงวิยะฎาเสียชีวิตแล้วคุณหญิงต้นได้เข้ามาทำงานถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เกี่ยวกับเรื่องเครื่องใช้ส่วนพระองค์ทั้งฉลองพระองค์และเครื่องประดับสืบต่อมาโดยมีคุณพ่อร่วมให้คำแนะนำ
เหรียญสองพระองค์ที่คุณหญิงต้นและสามีได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชนินีาถ
“หน้าที่ของแม่นอกจากตามเสด็จฯ แล้วอีกสิ่งหนึ่งคือการถวายงานเกี่ยวกับเครื่องใช้ส่วนพระองค์ ทั้งที่เป็นเครื่องเพชรหรือฉลองพระองค์ของสมเด็จพระบรมราชินีนาถ พ่อแม่ก็จะปรึกษากันพอถึงเวลาเสาร์-อาทิตย์ก็ไปร้านเพชรด้วยกันช่วยกันออกแบบถวายบางทีทรงได้พลอยมาโปรดอยากให้ออกแบบเป็นดอกไม้สำหรับเป็นตุ้มพระกรรณพ่อก็ออกแบบทำไปถวาย
“พ่อก็มีความสุขมากที่ได้ถวายงานเรื่องเครื่องแต่งพระองค์” คุณหญิงต้นเล่าถึงการทำงานถวายของคุณพ่อคุณแม่ด้วยความภาคภูมิใจ สำหรับคุณหญิงต้นเองยังมีอีกงานหนึ่งที่ทำถวาย คือ การจัดการแสดงโขนพระราชทานให้กับประชาชนชาวไทยได้ชื่นชมความงามของศิลปะ การแสดงของไทยที่มีมายาวนานและเกือบจะสูญหายไปเพราะไม่มีผู้สนใจชมจนกระทั่งทุกวันนี้โขนพระราชทานมีการแสดงสืบเนื่องมาแล้ว 6 ชุด และมีผู้ชมเพิ่มมากขึ้นทุกๆ ปี
.
ติดตามอ่านเรื่องราวความประทับใจสุดพิเศษนี้ได้ที่ HELLO MAGAZINE JEWELRY วางแผงแล้ววันนี้!!!