นับเป็นการอวดโฉมครั้งแรก ณ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติโตเกียวเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดย ‘Cartier Magicien’ คอลเลกชั่นจิลเวลรี่ชั้นสูงล่าสุดจากแบรนด์ดังแห่งฝรั่งเศส ประกอบร่างด้วยสไตล์อันเพ้อฝันความอาจหาญเชิงเทคนิคและความงามอันเจิดจรัส เมื่อมีการหยิบยกธีม “Magicien” ขึ้นมา จึงถือกำเนิดเป็นคอลเลกชั่นที่เฉลิมฉลองความสามารถของ Cartier ในการทำงานราวกับมีเวทมนตร์พร้อมด้วยโลหะเลอค่าและหินอัญมณีหายากสุดพิเศษ แน่นอนว่าผลงานหลายๆ ชิ้นที่ผ่านการแปลงโฉมและมีชีวิตชีวาพลิ้วไหวราวกับใช้เวทมนตร์เป็นหลักฐานแสดงถึงฝีมือชั้นครูของ Cartier อันเป็นที่รู้จักกันดี คอลเลกชั่นใหม่ ‘Cartier Megicien’
เฮียวเกกัง แกลเลอรี่ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติโตเกียว
เรื่องราวอันน่าหลงใหลของเวทมนตร์ สิ่งลี้ลับ ความชำนาญ จินตนาการและเทคนิค ปรากฏชัดให้เห็นในตัวเองด้วยเครื่องประดับชั้นสูงมีเอกลักษณ์ถึง 102 ชิ้นที่จัดแสดงอยู่ โดยราวๆ 48 ชิ้นนั้นเคยนำมาออกแสดงไปแล้วก่อนหน้านี้ในช่วงงานอีเวนท์เครื่องประดับชั้นสูงของ Cartier ปีเดียวกัน ณ Villa Ephrussi de Rotchild ในเฟรนช์ริเวียรา ทว่าสำหรับ Cartier Megicien ฉบับโตเกียวมีการจัดแสดงเครื่องประดับและของแตกแต่งรวม 500 ชิ้น นาน 2 สัปดาห์ รวมไปถึงชิ้นงานอันวิจิตรจาก Heritage Collection ของ Cartier อีกจำนวนหนึ่งแขกวีไอพีลูกค้าของ Cartier และสื่อมวลชนจากทั่วโลกหลั่งไหลมายังพิพิธภัณฑ์แห่งชาติโตเกียวในสวนสาธารณะอูเอโนะเพื่อร่วมงานเปิดตัวโดยเป็นช่วงเวลาที่อบอวลไปด้วยสีสันอันทรงเสน่ห์ของต้นฤดูใบไม้ร่วง
‘โซเฟีย คอปโปลา’ นักแสดงสาวชาวอเมริกันร่วมในงานเปิดตัวคอลเลกชั่นนี่ครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น
คอลเลกชั่นแบ่งออกเป็น 3 ธีมสุดสร้างสรรค์ ได้แก่ “The Magic of Light”, “The Magic of Design” และ “The Magic of the Real” ซึ่งเล่าถึงความลุ่มหลงสมัยโบราณกาลของมนุษย์ที่มีต่ออัญมณีนับแต่อดีตกาลแร่ธาตุมีค่าและอัญมณีสัมพันธ์กับเรื่องราวเปี่ยมมนตราของพลังและความเยาว์วัยด้วยแรงปรารถนาทางด้านเหตุผลที่ไกลเกินกว่าคุณค่าอันแท้จริง
สร้อยคอ Luminance
คู่ส่งเสริมบารมีของอัญมณีอย่างแสงได้รับการเชิดชูใน “The Magic of Light” ผ่านชุดเครื่องประดับหุ้มเพชรอันเกิดขึ้นได้ด้วยการใช้เหลี่ยมเพชรอันงดงามและฝีมือเชิงช่าง Cartier โดดเด่นอย่างมากในการใช้หลักการสะท้อนหักเหและการแพร่ของแสง (หลักศักดิ์สิทธิ์ 3 ประการในการสร้างประกายคุณภาพ) สร้อยคอ Luminance อาจจะเป็นตัวแทนของความสำเร็จนี้ได้ดีที่สุดประกอบด้วยเพชรทรงสามเหลี่ยมขนาดต่างๆพร้อมเหลี่ยมมุมการเจียระไนสามเหลี่ยม เพชรแต่ละเม็ดถูกจัดวางอย่างมีศิลปะเหนือแผ่นสามเหลี่ยมช่วยให้สร้อยคอมีภาพร่างที่เป็นสามมิติ

สร้อยคอ Incantation พร้อมแซพไฟร์ทรงคุชชั่นขนาด 22.82 กะรัต
สำหรับ “The Magic of Design” ทาง Cartier เผยถึงความกล้าเชิงเทคนิคในการแสดงถึงกลไกอัจฉริยะและงานช่างอันเที่ยงตรง แพลตฟอร์มเพื่อสาธิตความชำนาญของแบรนด์ในการรังสรรค์เครื่องประดับที่เปลี่ยนรูปได้ พระเอกตัวจริงคือ สร้อยคอ Incantation พร้อมแซพไฟร์ทรงคุชชั่นขนาด 22.82 กะรัต ที่ชวนให้ตกตะลึงจากศรีลังกา ตัวสร้อยเป็นห่วงโซ่โค้งงอของลักษณะรูปทรงเรขาคณิต จี้แซพไฟร์สามารถถอดออกได้ทั้งยังสวมบนแหวนได้อีกด้วย Cartier เพิ่มขีดจำกัดด้านความคิดสร้างสรรค์ให้กว้างไกลไปมากขึ้นโดยประดิษฐ์ระบบอันแยบยลและซับซ้อนที่แปลงโฉมโครงสร้างสร้อยคอราวกับเสกขึ้นด้วยเพียงแค่สัมผัสเท่านั้น

The Quetzal Set
“The Magic of the Real” รังสรรค์ขึ้นจากอัญมณีที่ปลดปล่อยความรู้สึกมีชีวิตชีวาซึ่งยากต่อการอธิบาย พร้อมพืชพรรณและสรรพสัตว์ที่มีชีวิตขึ้นด้วยมนตราแห่งอัญมณีนี่เองคืออาณาเขตของ Panthere อันเป็นผลงานระดับไอคอนของ Cartier ที่ย่างกรายอย่างโจ่งแจ้งด้วยเพชรพราวตัดกับดวงตาสีเขียวมรกตและลายจุดสีออนิกซ์ หรือวางอุ้งเท้าพร้อมมาดแสดงความเป็นเจ้าของเหนืออัญมณีเม็ดโตทั้งยังเป็นโลกของดอกไม้หายากเบ่งบานท่ามกลางความอุดมสมบูรณ์

สร้อยคอ Rajasthan ในสไตล์ Tutti Frutti
สร้อยคอ Rajasthan ขโมยความโดดเด่นเหนือเครื่องประดับชิ้นอื่นๆโดยขายให้แก่ผู้ซื้อชาวเอเชียที่ไม่ประสงค์ออกนามในช่วงนิทรรศการด้วยสนนราคาถึง 400 ล้านบาท อัญมณีแสนวิจิตรสลักในรูปแบบออร์แกนิกและฝังด้วยรูปลักษณ์ดอกไม้ ออกแบบในสไตล์ Tutti Frutti ประกอบด้วยมรกตโคลอมเบียทรงคุชชั่นขนาด 136.97 กะรัต ทับทิมทรงลูกแพร์ 22.61 กะรัต แซพไฟร์พม่าสลักขนาด 16.4 กะรัต และลูกปัดมรกตทรงเมลอนมูลค่าเท่ากัย 343.68 กะรัต เครื่องประดับชิ้นดังกล่าวสามารถสวมใส่ได้ถึง 3 แบบ และมรกตสลักลวดลายที่สามารถถอดออกจากตัวเรือนเพื่อใช้เป็นเข็มกลัดได้
การรังสรรค์เครื่องประดับชิ้นพิเศษสุดนั้น ส่วนของการออกแบบและการผลิตของ Cartier เปี่ยมด้วยความพยายามทุ่มเท กระบวนการทั้งหมด ตั้งแต่การเสาะหาคัดสรรหินจนถึงตัดสินรูปแบบดีไซน์และขัดเกลาหินธรรมดาให้มีความสวยงามต้องใช้เวลาเกือบ 2 ปีทีเดียว ดังเช่นที่พูดกันในภาษาฝรั่งเศสว่า Voila!