Home > Watches & Jewellery > Elegance is an attitude ความสง่างามที่ซ่อนอยู่ในรายละเอียดแห่งเรือนเวลาคอลเล็กชั่น Mini Dolcevita ผลงานระดับมาสเตอร์พีซจาก Longines

กล่าวได้ว่าเรือนเวลาระดับตำนานใน คอลเล็กชั่น Mini Dolcevita ของ ลองจินส์ (Longines) คือตัวแทนแห่งนิยามคำว่า ‘เหนือกาลเวลา’ ที่แท้จริง เพราะนับตั้งแต่ปี 1927 ที่ลองจินส์ได้รังสรรค์นาฬิกาที่เป็นต้นธารแห่งแรงบันดาลใจนี้ จวบกระทั่งปี 1997 ที่คอลเล็กชั่น Dolcevita ได้ถือกำเนิดขึ้น ชื่อเสียงโด่งดังที่เกิดจากรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าอันหรูหราสง่างาม ก็ได้รับความนิยมในหมู่นักสะสมกาลเวลาไปทั่วโลกมาโดยตลอด

Longines


เมื่อเดินทางมาถึงปี 2023 ลองจินส์พร้อมที่จะบอกเล่าเรื่องราวใหม่ ด้วยความภาคภูมิใจต่อการเผยโฉม คอลเล็กชั่น Mini Dolcevita ผลงานสร้างสรรค์ชิ้นเอกใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมการออกแบบสุดแสนประณีตบรรจง ผสานกับความคลาสสิกและความงามทางสุนทรียะในหลากหลายโมเดล สะท้อนถึงความงามหรูหราร่วมสมัยในแบบ quiet luxury อันสมบูรณ์แบบ อีกทั้งยังเป็นได้ทั้งเครื่องประดับข้อมือสำหรับสุภาพสตรียุคใหม่ผู้ทรงพลังและตระหนักถึงคุณค่าของตัวเอง ตลอดจนสะท้อนถึงสไตล์คลาสสิกเหนือกาลเวลาในทุกรายละเอียด

คอลเล็กชั่น Mini Dolcevita


เริ่มกันตั้งแต่ตัวเรือนสแตนเลสสตีลรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าอันเปี่ยมเอกลักษณ์ ขนาด 21.50 มม. x 29.00 มม. บรรจุกลไกควอตซ์ L178 ที่เที่ยงตรงสูง สามารถกันน้ำได้ในระดับ 3 บาร์ (30 เมตร) ได้รับการออกแบบมาเพื่อสะท้อนความเรียบง่ายภายใต้เส้นสายบอบบางบริสุทธิ์ พร้อมสายรัดข้อมือสแตนเลสสตีลดีไซน์ใหม่ ด้วยข้อต่อ 198 ชิ้นที่สร้างความสบายแก่ผู้สวมใส่เป็นพิเศษ ทั้งหมดนี้สอดประสานกันจนเกิดเป็นสไตล์อันทันสมัยควบคู่ไปกับความสง่าโดดเด่น

คอลเล็กชั่น Mini Dolcevita


อีกหนึ่งจุดเด่นของคอลเล็กชั่นนี้ คือการประดับฝังเพชร IF-VVS Top Wesselton จำนวน 38 เม็ดที่ตัวเรือน รวมถึงหน้าปัดลายวงกลมคอสโมแบบใหม่สวยสะดุดตาในทุกครั้งเมื่อมองผ่านกระจกคริสตัลแซฟไฟร์กันรอยขีดข่วน ในขณะที่หน้าปัดพื้นหลังที่เป็นสีเงินซันเรย์ก็ช่วยสร้างภาพความงามคอนทราสต์ได้อย่างแนบเนียน พร้อมด้วยวงกลมชั่วโมงสีขาวแมตต์ วงกลมด้านในสีเงินซันเรย์ และวงกลมหน้าปัดย่อยขนาดเล็กสีขาวแมตต์ ตกแต่งตัวเลขโรมันและเข็มนาฬิกาบลูสตีลสีน้ำเงิน ส่งผลให้สามารถอ่านค่าเวลาบนหน้าปัดสีอ่อนได้อย่างชัดเจน


นอกจากนี้ ความงามสง่าแห่งเรือนเวลาใน คอลเล็กชั่น Mini DolceVita ล่าสุด ยังหลากหลายไปด้วยสีสันและรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นโมเดลหน้าปัดสีเงินตกแต่งลาย flinqué ที่มีการสลักแพทเทิร์นลายเรขาคณิตบนหน้าปัดพร้อมด้วยเอฟเฟ็กต์กิโยเช่ พร้อมตัวเลขโรมันและเข็มนาฬิกาบลูสตีลสีน้ำเงิน และเข็มวินาทีขนาดเล็กอยู่ในหน้าปัดย่อย ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา และยังมีโมเดล 4 รุ่นที่ประดับเพชร ซึ่งมาพร้อมสีสันพาสเทล ทั้งสีขาวงาช้าง สีเขียวมิ้นท์ สีชมพูบลอสซั่ม และสีฟ้าอ่อน กรอบหน้าปัดทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าดูงดงามเชิงสามมิติ จากลูกเล่นทับซ้อนกันของสี่เหลี่ยมขนาดเล็กด้านในสลักลายกิโยเช่ ตัวเลขโรมันสีทอง และเข็มนาฬิกาสีทอง พร้อมด้วยสายรัดข้อมือหนังเข้าคู่กัน

คอลเล็กชั่น Mini Dolcevita


ในครอบครัว Mini DolceVita ยังรวมไปถึงโมเดลอีก 5 รุ่นที่มีตัวเรือนเรียบหรูไม่ประดับเพชร หน้าปัดโรมันตกแต่งด้วยหน้าปัดวงกลมคอสโมสีเงินปัดพ่นทราย โดยแต่ละโมเดลมาพร้อมสายรัดข้อมือสแตนเลสสตีลดีไซน์ใหม่หรือสายรัดข้อมือหนังสีดำ และยังสามารถเลือกสายรัดข้อมือหนังสีแดงได้อีกด้วย


จะเห็นได้ว่าโมเดลในแต่ละรุ่นล้วนสะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าเหนือกาลเวลา ที่มาพร้อมนัยยะอันบ่งบอกถึงชีวิตที่หอมหวานแบบอิตาเลียน อันเป็นคอนเซ็ปต์ของคอลเล็กชั่นนี้มาเนิ่นนาน กอปรกับความสง่างามที่เปี่ยมไปด้วยรายละเอียดสุดประณีต สมกับที่เจนนิเฟอร์ ลอเรนซ์ (Jennifer Lawrence) Longines Ambassador of Elegance เคยเอ่ยถึงสโลแกนที่เป็นมากกว่าสโลแกนของแบรนด์ลองจินส์ไว้ว่า “Elegance is an attitude. Of course it is!”


อ่านเรื่องราวดี ๆ เกี่ยวกับราชวงศ์ ทั้งไทย และ ต่างประเทศ เซเลบริตี้ ข่าวสารใหม่ๆ และ เรื่องราวเกี่ยวกับ แฟชั่น สุขภาพ และความงามได้ที่ HELLO!

Never miss an update

Subscribe to our newsletter to get the latest updates.

No Thanks
You’re all set

Thank you for your subscription.