เมื่อแต่ละเมซงล้วนรังสรรค์ผลงานเรือนเวลารุ่นใหม่ เพื่อร่วมถ่ายทอดถึงเอกลักษณ์และจิตวิญญาณการสร้างสรรค์เฉพาะตนเอง นั่นจึงกลายเป็นเสน่ห์ของเหล่าเรือนเวลาที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นดั่ง “ซิกเนเจอร์” ของแต่ละแบรนด์ชั้นนำระดับโลก เช่นเดียวกับในผลงานซิกเนเจอร์แห่งปีเหล่านี้
PATEK PHILIPPE Ref. 5320G Perpetual Calendar
ถ่ายทอดประเพณีที่ผสานด้วยนวัตกรรมกับมิติใหม่ของกลไกจักรกลอัตโนมัติ Caliber 324 S Q แสดงปฏิทิน perpetual calendar ผ่านช่องหน้าต่างสี่ช่อง สำหรับแสดงวัน เดือน ปีอธิกสุรทิน และวงจรกลางวัน/กลางคืน พร้อมทั้งการแสดง moon phases ด้วยความเที่ยงตรงแม่นยำสูง โดยจำเป็นต้องปรับตั้งเพียงหนึ่งวันในทุกๆ 122 ปี บรรจุภายใต้ตัวเรือนสไตล์วินเทจ โดยเฉพาะหูสายแบบสามระดับชั้นที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรุ่นตำนาน อย่าง Ref. 2405 ในยุค 1950s หนึ่งในคอลเลคชั่นที่บรรดานักสะสมตามหานี้มาพร้อมตัวเรือนไวท์โกลด์ 40 มม.
ROLEX Oyster Perpetual Cosmograph Daytona
หากพูดถึงเรือนเวลาสปอร์ตเปี่ยมด้วยตำนานและประวัติศาสตร์อย่างแท้จริง ต้องยกให้กับเส้นทางความสำเร็จของคอลเลคชั่นซิกเนเจอร์แห่ง Rolex นั่นคือ Cosmograph Daytona นาฬิกาแห่งความเร็วและความผูกพันต่อโลกมอเตอร์สปอร์ตมาอย่างยาวนาน โดยถ่ายทอดทุกคุณสมบัติที่จำเป็นบนสนามแข่งขันความเร็วมาไว้ในเรือนเดียว เช่นเดียวกับรุ่นล่าสุดของปีนี้ที่มาพร้อมเวอร์ชั่นใหม่ของตัวเรือนเยลโล่โกลด์ ไวท์โกลด์ และ Everose gold รวมถึงการนำนวัตกรรมสาย Oysterflex ที่มีความยืดหยุ่นและทนทานสูงมาใช้ กับความโดดเด่นของขอบตัวเรือน Cerachrom พัฒนาและจดสิทธิบัตรโดย Rolexทำจากเซรามิกสีดำ วิวัฒนาการล่าสุดของคอลเลคชั่นนี้ยังอุทิศแด่มรดกแห่งตำนานโครโนกราฟอันยิ่งใหญ่ของแบรนด์เช่นกัน
BVLGARI Octo Finissimo Automatic
สร้างสถิติโลกเป็นครั้งที่สามสำหรับ BVLGARI ด้วยนาฬิกาข้อมือจักรกลบางที่สุดในโลก ด้วยความหนาของตัวเรือนเพียง 5.15 มม. ขณะที่กลไกจักรกลอัตโนมัติ Caliber BVL 138 Finissimoที่ติดตั้งไว้ภายในซึ่งมีความหนาแค่พียง 2.23 มม.เท่านั้น โดยแบรนด์ได้เลือกบรรจุความบางพิเศษนี้ไว้ภายใต้เอกลักษณ์งานออกแบบสไตล์โรมันอันยิ่งใหญ่ของ Octo ที่เป็นหนึ่งในคอลเลคชั่นไอคอนของตน มาพร้อมน้ำหนักเบาเหลือเชื่อด้วยวัสดุไทเทเนียมทั้งบนตัวเรือนและหน้าปัด เลือกได้ระหว่างจับคู่สายสร้อยข้อมือไทเทเนียมหรือสายหนังจระเข้สีดำ
BREGUET Reine de Naples 8918
นำผลงานรุ่นขายดีที่สุดในคอลเลคชั่นเรือนเวลาสุภาพสตรีกลับมารังสรรค์ใหม่ด้วยความงดงามของหน้าปัดเปลือกหอยมุก Tahitian สีขาวธรรมชาติแกะลายกิโยเช่ด้วยมือแบบเยื้องศูนย์ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา พร้อมบรรจุด้วยตัวเลขสไตล์ Breguet ขนาดใหญ่ และดึงดูดสายตาด้วยเพชรบริลเลียนท์คัทบนขอบตัวเรือนและวงแหวนรอบหน้าปัด รวมถึงประดับเพชรบริโอเล็ตต์คัทบนเม็ดมะยม ในตัวเรือนโรสโกลด์ ภายในบรรจุด้วยกลไกจักรกลอัตโนมัติอันทรงเกียรติของแบรนด์
OMEGA 1957 Trilogy Limited Edition

เซ็ตนาฬิกา Professionals สามรุ่นวินเทจที่ล้วนเป็นต้นตำนานในคอลเลคชั่นของตน ซึ่งปีนี้จับมาปรับโฉมและสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ ประกอบไปด้วยรุ่น Seamaster 300, Railmaster และSpeedmaster โดยเซ็ตพิเศษนี้จะมาพร้อมกล่องบรรจุสไตล์วินเทจที่มีจำนวนจำกัด เพียง 557 เซ็ต อุทิศให้กับปี 1957 ปีแห่งการถือกำเนิดของเหล่านาฬิกา Professionals เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีแห่งความคลาสสิคยอดนิยมตลอดกาลในปีนี้
…………………………………..
Cr. www.pixabay.com
ติดตามเรื่องราว WATCH SPECIAL รวบรวมผลงานนาฬิกาแห่งในปี 2017 จากแบรนด์ระดับโลกได้ที่
นิตยสาร HELLO! ปีที่ 12 ฉบับที่ 16 วางแผงแล้ววันนี้
หรือติดตามฉบับดิจิตอลได้ทาง https://shop.burdathailand.com