เมื่ออากาศเริ่มแห้งขึ้น แสดงว่าช่วงเวลาของปลายปี ได้วนเวียนมาถึงอีกครั้ง โดยก่อนจากเข้าสู่ช่วงท้ายของปีนี้นั้น เราก็ขอมารีแคปกันอีกรอบสำหรับเหล่าสาวกนาฬิกา ว่ากลางปีที่ผ่านมานี้นั้น มี นาฬิกาแบรนด์ดัง แบรนด์ไหนบ้างที่มี รุ่นออกใหม่ มาให้เหล่าวอทช์คอลเล็กเตอร์ได้ตามเก็บกันบ้าง วันนี้ HELLO! ขอมาทำหน้าที่ลิทส์ให้ทุกคนเอง
Slim d’Hermès Pocket Masan Masan
สำหรับเรือนเวลาแรกที่เราขอพูดถึง ก็ต้องเป็นเรือนที่เต็มไปด้วยความหรูหรา คลาสสิก และยังเต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณแห่งศิลป์ ที่ควรค่าแก่สะสม กับ Slim d’Hermès Pocket Masan Masan(สลิม เดอ’แอร์เมส พ็อกเก็ต ม้าสาน ม้าสาน) นาฬิกาสไตล์พอกเก็ตวอทช์ ที่ประดับฝังขนม้าและการแกะสลัก ที่ถักทอกลายเป็นโฉมหน้า ที่ภาพคู่ของม้าอันงดงามได้สลักลงบนหน้าปัด พร้อมทั้งถักทอไว้ด้วยขนม้าและงานแกะสลักบนโรสโกลด์ โดยที่สำคัญนี้ เป็นงานที่รังสรรค์โดยศิลปินคนไทย ‘คุณธีรวัฒน์ เฑียรฆประสิทธิ์’ อีกด้วย
เรือนนี้มาพร้อมกับฝาปิด และหน้าปัดของนาฬิกาพกหนึ่งเดียวนี้ได้ผ่านการตีความใหม่มาจากลวดลายผ้าพันคอไหม ม้าสาน & ม้าสาน (Masan & Masan)โดยการประยุกต์ใช้ศิลปะโบราณของงานถักขนม้า ที่ตรงกับชื่อ ม้าสาน ซึ่งมีความหมายถึง <<ม้าถัก>> ในภาษาไทย รังสรรค์ขึ้นจากการเก็บรวบรวมผักตบชวา จากนั้นจึงนำมาตากแห้งด้วยแสงอาทิตย์ ก่อนนำมาถักด้วยมือเพื่อสร้างสรรค์เป็นวัตถุสิ่งของต่าง ๆ อาทิ ตะกร้า หมวก และตุ๊กตารูปสัตว์
Rado True Square Open Heart
เมื่อพูดถึง Rado คอลเล็กชั่นในดวงใจของคนรักนาฬิกาทั่วโลก True Square Open Heart น่าจะติดอันดับต้นๆ อย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยเอกลักษณ์ของไฮเทคเซรามิกสีขาว การประดับเพชรบนตำแหน่งบอกชั่วโมง และหน้าปัดแบบเปิดให้เห็นกลไกด้านใน โดยสามเรือนล่าสุดนี้ มาพร้อมดีไซน์อันน่าตื่นตากว่าเดิม มีทั้งตัวเรือนไฮเทคเซรามิกแบบชิ้นเดียว สีดำ ขัดเงา เช่นเดียวกับเม็ดมะยม เส้นขอบบนหน้าปัดสีเหลืองทองมีความลาดเอียงนิดๆ ส่วนด้านหลังเป็นไทเทเนียมพ่นทรายเคลือบ PVD สีดำและคริสตัลแซฟไฟร์ สายนาฬิกาใช้ไฮเทคเซรามิกสีดำเงาเหมือนตัวเรือน แต่ตัวล็อกเป็นไทเทเนียม
เรือนต่อมาทำจากพลาสม่าไฮเทคเซรามิกขัดเงาแบบชิ้นเดียว หน้าปัดขัดเงาแนวตั้งสีเทา เพิ่มมิติความสว่าง แบบหรูหราด้วยเส้นขอบสีโรสโกลด์ สายนาฬิกาใช้พลาสม่าไฮเทคเซรามิกขัดเงากับตัวล็อกไทเทเนียม
True Square Open Heart เรือนสุดท้ายในคอลเล็กชั่นนี้เป็นสีขาวเหมือนเรือนไอคอนิกในอดีต ตำแหน่งบอกชั่วโมงทั้ง 12 จุดบนหน้าปัดประดับเพชร Top Wesselton 125/130 น้ำหนักรวม 0.096 กะรัต มาพร้อมใบรับรองอัญมณีล้ำค่า และสิ่งหนึ่งที่มีเหมือนกันทั้งสามเรือนคือสัญลักษณ์สมอเคลื่อนที่ เอกลักษณ์สำคัญของ Rado
Longines Mini DolceVita
แน่นอนว่าเรือนนี้อาจกำลังเป็นที่กล่าวถึงอย่างมาก ในหมู่คุณผู้หญิงที่ชื่นชอบเรือนเวลา กับ LONGINES MINI DOLCEVITA กับผลงานระดับมาสเตอร์พีซใหม่ล่าสุดที่สืบสายมาจากนาฬิการุ่นระดับตำนานของลองจินส์จากปี 1927 และคอลเลคชั่น DolceVita ดั้งเดิมจากปี 1997 อันเป็นจุดเริ่มต้นของสโลแกน “Elegance is an attitude” พร้อมการออกแบบอันประณีตบรรจง ผสานความคลาสสิก และความงามทางสุนทรียะในหลากหลายโมเดล สะท้อนถึงความหรูหราแบบ Quiet Luxury และความสง่างามในแบบฉบับลองจินส์ได้อย่างครบถ้วน
ตัวเรือนถูกออกแบบมาให้มีความเรียบง่ายด้วยเส้นสายที่บอบบางบริสุทธิ์ พร้อมสายรัดข้อมือสแตนเลสสตีลดีไซน์ใหม่ จุดเด่นของคอลเลคชั่น Mini DolceVita คือการประดับฝังเพชร IF-VVS Top Wesselton จำนวน 38 เม็ดที่ตัวเรือน รวมถึงหน้าปัดลายวงกลมคอสโมแบบใหม่ ภายในตัวเรือนสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่เสริมสร้างความสง่างามเป็นพิเศษเมื่อมองผ่านกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ที่กันรอยขีดข่วน สร้างความคอนทราสต์อย่างแนบเนียน
Hublot Spirit of Big Bang
อีกเรือนเวลา นาฬิกาแบรนด์ดัง รุ่นออกใหม่ ทรง Square ที่น่าสนใจ ก็คงไม่พ้น Hublot Spirit of Big Bang ที่มาพร้อมหน้าปัดขนาด 32 มม. ด้วยดีไซน์และตัวเรือนทรงตอนโน (Tonneau) หรือถังเบียร์ มาพร้อมตัวเลือกในเวอร์ชั่นสเตนเลสสตีล หรือ King Gold และหน้าปัดสีขาวหรือสีดำ มาในแบบเรียบหรูด้วยขอบตัวเรือนประดับเพชรรอบเดียวและประดับเพชรทั่วทั้งตัวเรือน ที่สะกดทุกสายตา สะท้อนถึงบุคคลิกสง่างามของสาวยุคใหม่ มาพร้อมสายระบบ One Click ที่สามารถถอดสายเพื่อปรับลุคเปลี่ยนสไตล์ได้อย่างง่ายดายในคลิกเดียวกับออปชันของสายที่มีให้เลือกมากมายหลากสีสัน
Breguet TYPE XX
มาถึงที่เรือนเวลาของหนุ่มๆ กันบ้าง สำหรับคุณผู้ชายที่ชื่นชอบในความคลาสสิก โดยเฉพาะกลิ่นอายของอุตสาหกรรมการบิน ต้องชื่นชอบเรือนที่เรากำลังจะพูดถึง อย่างเจเนอเรชั่นใหม่ของ Type XX ที่เพิ่งเผยโฉมในปีนี้ ใช้เวลาในการรังสรรค์ นวัตกรรมแห่งกาลเวลา นานถึง 4 ปีเต็ม พัฒนาจนได้ ออกมาเป็นสองเวอร์ชั่น ได้แก่ เวอร์ชั่นที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรุ่น Military หรือรุ่นกองทัพ และ รุ่น Civilian หรือรุ่นพลเรือนที่ดีที่สุด โดย Breguet ผสมผสานเอกลักษณ์ของเจเนอเรชั่นแรกเข้ากับความร่วมสมัย พลวัตใหม่ และเทคโนโลยี
โดยเฉพาะอยางยิ่งรุ่นปี 1957 ที่มีหมายเลขตัวเรือนคือ 2988 ถึงหน้าปัดจะมีสีดำเหมือนกันกับรุ่น 2057 แต่ก็มีความแตกต่างกันในหลายแง่มุม อย่างแรกเลยคือการแสดงฟังก์ชั่นต่างๆ บนหน้าปัด ระบบจับเวลา 15 นาที อยู่ ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา ฟังก์ชั่นแสดงเวลาแบบ 12 ชั่วโมง อยู่ ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา และแสดงการเดินแบบวินาที ณ ตำแหน่ง 9 นาฬิกา
Blancpain Fifty Fathoms Act 3
เหินฟ้าไปแล้ว เราลงน้ำลึกกันบ้าง และแน่นอนว่าถ้ากล่าวถึงเรือนเวลาดำน้ำ ที่เป็น นาฬิกาแบรนด์ดัง รุ่นออกใหม่ ก็คงไม่พ้น Fifty Fathoms Act 3 ซึ่งเรียกได้ว่า เป็น Fifty Fathoms ในรุ่นที่ 3 แล้ว แต่ความพิเศษของรุ่นนี้ คือได้กลับมาเติมเต็มกลิ่นอายวินเทจให้มากขึ้น แต่ก็ยังไม่ละทิ้งความสปอร์ต ทำให้สามารถสวมใส่ได้ง่ายในชีวิตประจำวัน
แต่ความพิเศษที่เพิ่มขึ้นมา คือฟังก์ชั่น Moisture indicator หรือมาตรแสดงความชื้น สำหรับกาารป้องกันความชื้นที่สูงไปในตัวเรือน ซึ่งฟังกืชั่นนี้นั้น สามารถพบเห็นได้ในนาฬิกาของกองทัพเรือสหรัฐอีกด้วย ซึ่งเรือนนี้ ผลิตออกมาเพียง 555 เรือนทั่วโลก โดดเด่นด้วยหน้าปัดสีดำด้าน หลักชั่วโมงแบบวินเทจเคลือบสารเรืองแสง ขอบตัวเรือนเซรามิกสีดำพร้อมสเกลจับเวลา
อ่านเรื่องราวดี ๆ เกี่ยวกับราชวงศ์ ทั้งไทย และ ต่างประเทศ เซเลบริตี้ ข่าวสารใหม่ ๆ และ เรื่องราวเกี่ยวกับ แฟชั่น สุขภาพ และความงามได้ที่ HELLO!
อวดโฉมนวัตกรรมของ นาฬิกานักบิน BREGUET TYPE XX เจเนอเรชั่นใหม่ ไปพร้อมหนุ่มๆ มากเสน่ห์
Rainbow Shines เฉิดฉายด้วยเฉดสีรุ้ง นาฬิกา Ladybird Colors เอกลักษณ์ความงดงามแห่ง Blancpain