ที่สุดแห่งเครื่องบอกเวลา OMEGA Speedmaster Chronoscope พลิกโฉมจากมรดกในตำนานสู่นวัตกรรมใหม่ที่คุณต้องประทับใจ

เมื่อพูดถึงเรื่องราวอันทรงคุณค่าเต็มไปด้วยความหมาย และเรื่องราวแห่งสมรรถนะ ความแม่นยำ และความเที่ยงตรง ในฐานะเรือนเวลารุ่นใหม่ของ OMEGA (โอเมก้า) ใน Speedmaster Chronoscope ที่เป็นทั้งเครื่องบอกเวลาอันเที่ยงตรง และการพัฒนามาสู่เครื่องมือชิ้นสำคัญสำหรับเคียงคู่กายเหล่านักผจญภัย โดยหล่อหลอมมาจากสองคำสำคัญตามประเพณีกรีก นั่นคือระหว่าง ‘Chronos’ ซึ่งหมายถึง เวลา และ ‘Scope’ ที่หมายถึง การสังเกตการณ์ เรือนเวลารุ่นนี้จึงเปรียบเสมือนเครื่องมือวัดระยะเวลาที่ได้ร่วมถ่ายทอดสองความหมายนี้ไว้อย่างครบถ้วน ผ่านสามสเกลวัดค่าซึ่งผสมผสานรวมอยู่ในนาฬิกาเรือนเดียวกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ภายใต้เอกลักษณ์ของ Speedmaster ซึ่งในรุ่น Chronoscope ใหม่นี้มาพร้อมตัวเรือน 43 มม. และดีไซน์แบบต้นตำรับจากมรดกทางประวัติศาสตร์ของแบรนด์ โดยเฉพาะการแบ่งระดับการแสดงสเกลวัดค่าต่างๆ ไว้อย่างชัดเจน และสามารถใช้งาน รวมถึงอ่านค่าได้อย่างแม่นยำ เริ่มจากการบรรจุบนขอบตัวเรือนด้วย Tachymeter สเกลคำนวณความเร็วจากระยะทาง โดยวัดระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทางเฉลี่ยที่อิงจากระยะทางที่เดินทางไปหรือระหว่างตำแหน่งสองตำแหน่ง ขณะที่สเกล Telemeter ซึ่งล้อมรอบศูนย์กลางหน้าปัด มีไว้สำหรับวัดระยะทางจากความเร็วของเสียง โดยสามารถบอกถึงระยะทางที่เราอยู่ห่างจากแหล่งกำเนิดเสียงที่ได้ยินหรือเห็น เช่น พายุฝนฟ้าคะนองได้ และซ้อนไว้ด้วยสเกล Pulsometer สำหรับวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ได้ด้วยสเกลจับวัดชีพจร 30 ครั้งต่อนาที

เสน่ห์ดึงดูดสายตามากที่สุดนั้นยังคงต้องยกให้กับงานดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากนาฬิกาข้อมือโครโนกราฟยุค 1940s ของ OMEGA โดยเฉพาะความโดดเด่นของหน้าปัดซึ่งตกแต่งด้วยรายละเอียดแบบ ‘Snail’ รวมถึงหน้าปัดย่อยสองวงและสเกลวัดค่าต่างๆ ที่จัดวางลำดับและซ้อนกันได้อย่างลงตัว พร้อมทั้งผสมผสานด้วยงานดีไซน์แห่งศตวรรษที่ 20 เช่น เข็มชี้รูปทรงใบไม้ และลวดลายสเกลแบบ ‘Spiral’ ที่รับไปกับตัวเลขอารบิก โดยการแสดงทั้งหมดนี้ขับเคลื่อนด้วยกลไก OMEGA Co-Axial Master Chronometer Calibre 9908 ที่ผ่านมาตรฐานการทดสอบอันเข้มงวดสูงสุดโดย METAS พร้อมทั้งงานตกแต่งอย่างประณีตซึ่งมองเห็นได้ผ่านฝาหลังกระจกคริสตัลแซพไฟร์ เปิดโชว์ความโดดเด่นของสะพานจักร Chronoscope รวมทั้งลวดลาย Geneva Waves ในแบบ Arabesque ซึ่งเริ่มลายมาจากบาลานซ์วีลแทนที่จะเป็นจากศูนย์กลางของกลไก และยังนับเป็นครั้งแรกสำหรับ OMEGA อีกด้วย 

OMEGA Speedmaster Chronoscope มีให้เลือกถึงหกรุ่น โดยประกอบด้วยตัวเรือนสเตนเลสสตีลขัดเงาและขัดด้าน ที่ในสองรุ่นมาพร้อมหน้าปัดสีเงินและเข็มชี้สีน้ำเงิน กับอีกสองรุ่นคู่ด้วยหน้าปัดสีน้ำเงินและเข็มชี้ชุบโรเดียม และอีกสองรุ่นซึ่งมาพร้อมหน้าปัดสีเงินและหน้าปัดย่อยสีดำหรือที่รู้จักกันดีว่าหน้าปัด ‘Panda’ ชื่อดัง รวมถึงเข็มชี้สีดำ โดยทุกเวอร์ชั่นบรรจุวงแหวนขอบตัวเรือนทำจากอะลูมิเนียมอโนไดซ์ในเฉดสีน้ำเงินหรือสีดำ พร้อมทั้งตัวเลือกของทั้งสายหนังกับหัวเข็มขัดสายดีไซน์ใหม่ หรือสายสตีลสไตล์สปอร์ตร่วมสมัย

นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งรุ่นที่มาพร้อมตัวเรือน Bronze Gold อัลลอยด์สุดเอ็กซ์คลูซีฟของ OMEGA ที่มอบมิติและเฉดสีชมพูอันอ่อนโยนและสวยงาม รวมถึงต้านทานการกัดกร่อนได้อย่างดีเยี่ยม กับความพิเศษของหน้าปัดออกซิไดซ์บรอนซ์ตกแต่งแบบ Patina บรรจุเข็มชี้ทรงใบไม้และตัวเลขอารบิกเคลือบ PVD Bronze Gold โดดเด่นและหน้าปัดย่อยโอปอลีนสีเงิน ส่วนขอบตัวเรือนเป็นเซรามิกสีน้ำตาล พร้อมสเกล Tachymeter ลงยาแบบวินเทจที่เป็นอีกหนึ่งงานดีไซน์ครั้งแรกสำหรับ OMEGA 

Speedmaster Chronoscope หล่อหลอมไว้ด้วยเรื่องราวแห่งเรือนเวลาระดับตำนานและความเพียบพร้อมด้านสมรรถนะอย่างแท้จริง สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ บูติก OMEGA เซ็นทรัล เอ็มบาสซี โทร. 0–2160–5959, สยามพารากอน โทร.0–2129–4878 และดิ เอ็มโพเรียม โทร. 0–2664–9550